วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:เฒ่าลามกอยากเห็นสาวคราวลูกไม่นุ่งผ้า

เฒ่าลามกอยากเห็นสาวคราวลูกไม่นุ่งผ้า เลยต้องไปนั่งตบยุงในคุก

Photo credit: pexels.com


เฒ่าตัณหากลับ บอกกับสาวที่เพิ่งเจอบนรถเมล์ว่าเขาอยากเห็นเธอตอนไม่นุ่งผ้า – ติดคุกไปแล้ว

ไม่เข้าใจจิงๆ ลุงคนนี้แกคิดยังไงตอนบอกกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนว่าเขาอยากเห็นเธอตอนไม่นุ่งผ้า?

เฒ่า ฟิลิป สุธรรม ธานะราช วัย 51 ปี ถูกศาลตัดสินให้จำคุกสองเดือนครึ่งฐานพูดจาลวนลามผู้หญิง ใช้คำหยาบกับพนักงานขับรถ และขโมยเหล้าสองขวดจากร้านเซเว่น อีเลเวน

เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 31 ตุลาคมปีทีแล้ว ในขณะที่ธานะราชนั่งอยู่บนรถเอ็มอาร์ที สายเอ็นอาร์ 7 ของสิงคโปร์ เขาหันมาทางผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งแล้วถามว่าเธอมีแฟนหรือยัง

ความพยายามในการตีซี้ของเขาล่มไม่เป็นท่าเมื่อฝ่ายหญิงไม่ตอบ เธอไม่สนใจเขาและพูดโทรศัพท์ของเธอต่อไป

ถามดีๆไม่ตอบใช่มั้ย ธานะราชคงคิดยังงั้นแล้วเอี้ยวตัว ก้มหน้าลง พยายามมองเข้าไปในกระโปรงของเธอ

หญิงคนนั้นรีบเอากระเป๋ามาปิดขาอ่อนทันที

“ป๋าอยากเห็นหนูตอนไม่ใส่เสื้อผ้าจัง” เฒ่าตัณหากลับพูดอย่างไม่สะทกสะท้านแล้วเรียกเธอว่า “แรด” 

แหงแซะ หญิงคนนั้นตะโกนบอกพนักงานขับรถ ฝ่ายหลังนี้จึงโทรไปแจ้งตำรวจ เท่านั้นยังไม่พอ คุณพี่คนขับรถไม่ยอมเปิดประตูให้ธานะราชลงจากรถด้วย

ธานะราชยั้วะมาก ตะโกนด่าคุณพี่คนขับ ผู้โดยสารอื่นๆก็โดนลูกหลง ถูกด่าไปด้วย

ก่อนเกิดเหตุในคืนวันนี้ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ธานะราชขโมยเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์สองขวดจากร้านเซเว่น อีเลเว่นในปั๊มน้ำมันเชลล์บนถนนลอรอง 1 เตา ปาโยมาแล้ว

ตำรวจจับตัวธานะราชได้ที่ท่าเรือ เขาให้การรับสารภาพ

ขอขอบคุณภาพจาก: pexels.com

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน




วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:เรื่องขำๆของโจร ตอนโจรจี้เครื่องบินยอมมอบตัวเพราะหิวเบียร์

โจรจี้เครื่องบินยอมมอบตัวเพราะหิวเบียร์

ภาพจากแฟ้ม

สตีน อาร์วิด ฮูสบี้ หนุ่มน้อยวัย 24 ปี - อดีตนักโทษและอดีตนักเรียนปวส.ซึ่งเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ -  จี้เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินบราทเทน ซึ่งกำลังบินจากสนามบินทรอนด์ไฮม์ ไปยังสนามบินออสโล ก่อนขึ้นเครื่องดูเหมือนเขาจะกึ่มๆมาแล้ว
ฮูสบี้ใช้ปืนลม ซึ่งซื้อมาก่อนวันเกิดเหตุเพียงวันเดียว ลักลอบใส่กระเป๋าถือขึ้นไปบนเครื่อง หลังจากนั้นก็ไปนั่งที่นั่งแถวหลังสุด
เมื่อเครื่องบิน - ซึ่งมีผู้โดยสารอยู่เต็มลำ 120 คน - บินอยู่บนท้องฟ้า ฮูสบี้ก็เอาปืนให้แอร์โฮสเตสดู
“เห็นปืนนี่ไหม ไม่ใช่ปืนอย่างเดียวนะ ผมวางระเบิดไว้บนเครื่องลำนี้ด้วย” เขาบอกเธอแต่ความจริงไม่ได้มีระเบิดอะไรหรอก
หลังจากนั้นฮูสบี้ก็บอกเธอให้แจ้งกับกัปตันว่าเขาควบคุมเครื่องบินลำนี้เอาไว้แล้ว และให้กัปตันบินไปยังจุดหมายตามหมายกำหนดการเดิม 
แอร์โฮสเตสและฮูสบี้ใช้อินเตอร์คอมติดต่อกับกัปตัน หอควบคุมภาคพื้นดินจึงรู้ว่ามีการจี้เครื่องบินและแจ้งตำรวจเมื่อเวลา 15.05 น.
การจี้เครื่องบินคราวนี้ ฮูสบี้มีข้อเรียกร้องสองข้อ 1)ขอคุยกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม 2)ต้องการจัดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่สนามบิน 
ต้นเหตุของข้อเรียกร้องมาจากการที่เขาไม่พอใจที่ได้รับการปฎิบัติที่ไม่ดีจากราชการหลังจากออกมาจากคุก เขาจึงเรียกร้องให้รัฐบาลประกันว่าเขาจะได้รับการปฏิบัติและมีความมั่นคงทางการเงินที่ดีขึ้น
ตอรอดด์ ไวดิ้ง กล่าวในนามของตำรวจว่าฮูสบี้เอาแต่คร่ำครวญว่าเขาถูกข้าราชการปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรมและเรียกร้องขอพบกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมให้มาฟังคำร้องเรียนของเขาด้วยตัวเอง แต่นายกและรมต.ปฎิเสธ
ตำรวจและนักจิตวิทยาจึงทำหน้าที่เจรจากับฮูสบี้ นอกจากนั้นก็ยังมีเพื่อนคนหนึ่งของฮูสบี้มาช่วยตำรวจด้วยอีกคน ระหว่างการเจรจา ทางสนามบินสั่งปิดการจราจรทางอากาศทั้งหมดทั้งๆที่เป็นช่วงเวลาหยุดยาวของเทศกาลวันหยุดช่วงกลางฤดูร้อนของนอร์เวย์
เมื่อเวลา 15.30 น.เครื่องบินก็ลงมาจอดที่สนามบิน โดยมีตำรวจล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา
หลังจากเครื่องบินลงแตะพื้นได้หนึ่งชั่วโมง ผู้โดยสาร 70 คนก็ถูกปล่อยลงจากเครื่อง ผู้โดยสารกลุ่มนี้ให้เหตุผลกับฮูสบี้ว่าพวกตนต้องต่อเครื่องไปยังจุดหมายปลายทางอื่น ในการนี้กัปตันจึงขับเครื่องบินเข้าไปใกล้กับอาคารผู้โดยสาร รถบัสมารับผู้โดยสารเหล่านี้ไปยังอาคารผู้โดยสารภายในประเทศเพื่อให้ตำรวจสอบปากคำ
ผู้โดยสารกล่าวว่าฮูสบี้แต่งตัวดี ใส่สูท ใส่แว่นตาดำ และมีท่าทางสงบมากๆ พวกเขากล่าวว่าขณะเกิดเหตุ ฮูสบี้ขอเบียร์ไปดื่มอยู่ตลอดเวลา
ผู้โดยสารที่เหลือถูกปล่อยออกมาหลังจากนั้นสามสิบนาที บนเครื่องจึงมีตัวประกันแค่ห้าคน ซึ่งเป็นลูกเรือทั้งหมด
เมื่อเวลา 17.30 น.ฮูสบี้ก็ดื่มเบียร์บนเครื่องจนหมด (จริงหรือเปล่า?) เขาจึงตกลงกับคณะเจรจาว่าจะโยนปืนออกมาจากทางหน้าต่างเพื่อแลกกับเบียร์
คณะเจรจาตกลง และให้ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งเอาเบียร์ไปส่ง แล้ววินาทีนั้นตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษก็กรูกันขึ้นไปบนเครื่อง
ฮูสบี้ถูกจับและถูกศาลตัดสินจำคุกสามปีและควบคุมความประพฤติอีกห้าปี เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ฮูสบี้มีประวัติโชกโชนไม่เบา เขาเคยถูกจับหลายครั้ง ครั้งหนึ่งด้วยข้อหามีพฤติกรรมรุนแรง เขาเคยติดคุก และเคยเข้าบำบัดอาการติดสุรามาแล้ว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 1985 เป็นการจี้เครื่องบินโดยสารในประเทศเป็นครั้งแรกของนอร์เวย์และเป็นครั้งที่สี่ที่เกิดขึ้นในประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เพราะในปี 1979 เครื่องบินของโซเวียตถูกจี้ขณะเครื่องกำลังบินจากออสโลไปสต็อคโฮม ในปี 1978 เที่ยวบินภายในประเทศของฟินแลนด์ถูกจี้เป็นเวลา 48 ชั่วโมง และในปี 1972 กลุ่มหัวรุนแรงชาวโครเอเซียขู่จะระเบิดเครื่องบินในมาล์โม สวีเดน
(ข่าวไม่ได้บอกว่ามีผู้โดยสารเอาลูกเทพขึ้นเครื่องไปด้วยหรือเปล่า จึงได้แคล้วคลาดมาได้ – ผมเอง)
ภาพจากแฟ้ม
อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน





















วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแแปลก:เฒ่าวัยคะนอง ซิ่งมอเตอร์ไซค์ บิด 250 กม./ชม.

เฒ่าวัยคะนอง ซิ่งมอเตอร์ไซค์ บิด 250 กม./ชม.

ภาพจากแฟ้ม / มอเตอร์ไซค์


หมวกกันน็อคติดกล้องกับการได้ออกไปซิ่งสักวันน่าจะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวของบรรดาสาวกนักซิ่งทั้งหลาย แต่สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นฝันร้ายได้ง่ายๆ
ยู๊ด...ก่อนที่คุณจะคิดไปต่างๆนาๆ ขอบอกก่อนว่าชายคนนี้ไม่ได้เป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุใดๆ และเหตุการณ์นี้ก็ไม่เหมือนกับที่เห็นในวีดีโอแข่งมอเตอร์ไซค์ซึ่งมีจุดจบไม่สวยด้วยเช่นกัน

แต่สิ่งที่เขาทำคือ การขับรถเร็วกว่าความเร็วที่ระบุไว้ในป้ายจำกัดความเร็ว การขับปาดซ้ายปาดขวาแซงรถคนอื่นและการแซงในเขตห้ามแซง

สิงห์นักบิดคนนี้ชื่อโรเบิร์ต แฮมมอนด์ อายุอานามก็ปาเข้าไปถึง 60 ปีแล้ว เขานึกสนุก ใส่หมวกกันน็อคติดกล้องแล้วโดดขึ้นรถฮอนด้า ไฟร์เบลด (โฆษณาให้ซะเลยว่ารถแรง) บนถนนในซัสเซ็กซ์และแฮมพ์เชอร์

แฮมมอนด์  ถ่ายเหตุการณ์ตอนที่ตัวเองกำลังซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปตามถนนด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ไม่ได้อ่านผิดหรอกครับ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจริงๆ เร็วขนาดที่ว่าเร็วกว่าความเร็วโดยเฉลี่ยของรถสูตรหนึ่งที่แข่งกันในสนามเสียด้วยซ้ำล่ะมั้ง)

พอซิ่งเสร็จ ด้วยความคึกคะนองของชายวัยแรกแย้ม (ฝาโลง) เขาเอาวีดีโอไปโพสต์ในเน็ต

พอตำรวจซัสเซ็กซ์เห็นเข้า ก็เลยมาชวนเขาไปโรงพัก แล้วมอบข้อหาให้สี่กระทง เสร็จเลย! เขาถูกศาลตัดสินให้ไปซิ่งต่อในคุกสองปี โดยให้ติดคุกข้อหาละหกเดือน

จ่าอลัน สไปเซอร์ของเมืองซัสเซ็กซ์กล่าวว่า “หนังเป็นหลักฐานให้เห็นการขี่มอเตอร์ไซค์ที่น่าหวาดเสียว มันเป็นปาฎิหารย์ที่ผู้ร่วมใช้ถนนคนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการที่เขาขี่ด้วยความเร็วขนาดนี้ในลักษณะนั้น”


ในวีดีโอที่ตำรวจเอามาเผยแพร่ มีข้อความกำกับไว้ว่า “สิงห์มอเตอร์ไซค์ซึ่งถ่ายเหตุการณ์ที่ตนเองกำลังขับด้วยความเร็ว 155 ไมล์/ชั่วโมง ( 250 กม./ชั่วโมง)บนถนนในซัสเซ็กซ์และแฮมพ์เชอร์ถูกตัดสินให้จำคุกไปแล้ว”

ก็รู้แล้วนะว่าการขับรถผิดกฎจราจรโทษมันหนักแค่ไหน (ยังดีที่เรื่องนี้เกิดขึ้นในอังกฤษ)

เฮ้อ อ่านข่าวนี้ทำให้คิดถึงเพลงขอลุงก่อน ลุงแก่แล้วขึ้นมาจริงๆ ขับเร็วได้ขนาดนี้ ทำไมไม่
คิดถึงทางหนีทีไล่เอาไว้เลย

ภาพจากแฟ้ม: มอเตอร์ไซค์

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน


(ดูหนังได้ที่ Selsey motorcyclist jailed for two years for dangerous driving – you tube)



วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก: ตำรวจเซี่ยงไฮ้รับมือกับขโมยด้วยจารบี

ตำรวจเชี่ยงไฮ้รับมือก้บขโมยด้วยจารบี

ภาพจากแฟ้ม/จารบี

ตำรวจในเมืองธุรกิจของจีนโชว์อาวุธชิ้นล่าสุดที่จะเอามาใช้รับมือกับขโมย – ซึ่งก็คือจารบีเป็นถังๆ

ปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า “แผนป้องกันด้วยจารบี” ถูกนำมาใช้ในเมืองฉางหนิงในมณฑลเชี่ยงไฮ้เมื่อเดือนกรกฎาคม

ความคิดนี้เกิดขึ้นหลังจากแก๊งค์หัวขโมยบุกเข้าไปขโมยของในห้องซึ่งอยู่ในแฟลตเลขที่ 635 อันเป็นห้องพักของหญิงสองคน การงัดแงะเข้าไปขโมยของอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายครั้งนี้ ขโมยได้เงินไป 3000 หยวน หรือราวๆ 300 ปอนด์

สหายหญิงซัน เหวยเฟง เจ้าหน้าที่ประสานงานชุมชน ควันออกหูจากคดีย่องเบาครั้งล่าสุด เพราะที่นี่มีคดีที่เย้ยกฎหมายแบบนี้ติดต่อกันมาแล้วหลายครั้ง

สหายซัน จึงไปซื้อจารบีหล่อลื่นจำนวนมากมาจากร้านขายวัสดุก่อสร้างซึ่งอยู่ใกล้ๆแล้วลงมือทาจารบีลงบนท่อน้ำและท่อแก๊สของตึกรามบ้านช่องต่างๆ สหายหญิงทาจากพื้นถึงชั้นสามเลยทีเดียว

แผนของสหายซันใช้ได้ผล พวกย่องเบาไต่ท่อลื่นๆขึ้นไปไม่ได้อีก สามเดือนผ่านไปนับตั้งแต่เอาวิธีนี้มาใช้ ไม่มีคดีงัดแงะเกิดขึ้นแม้แต่คดีเดียว

นอกจากนั้น เทคนิคนี้ก็ยังประหยัดเงินได้อีกด้วย “จารบีที่ทาไปครั้งหนึ่งสามารถอยู่ได้ครึ่งปี”

พรรคคอมมิวนิตส์ของจีนทุ่มเงินไปกับการรักษาความปลอดภัยของมาตุภูมิมากกว่างบประมาณด้านการทหาร ส่วนหนึ่งของเงินจำนวนนี้เป็นงบลงทุนในการขยายโครงข่ายกล้องวงจรปิด

เมื่อปี 2012 มีรายงานว่าในกรุงปักกิ่งมีกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตามถนนถึง 800000 ตัว ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้เป็นเมืองที่มีกล้องวงจรปิดมากที่สุดในโลก แซงหน้าอังกฤษไปแล้วเสียด้วยซ้ำ

ทางการตำรวจยอมรับว่าจารบีไม่สามารถ “ทดแทนกล้องวงจรปิด” ได้ อย่างไรก็ดี  มันก็เป็นวิธีป้องกัน “พวกหัวขโมยที่กลัวลื่น” อย่างหนึ่ง

นอกจากจารบีแล้ว เมื่อต้นปี 2013 ตำรวจที่เมืองชินเจียงก็ประกาศว่าพวกเขาเริ่มออกลาดตระเวนพร้อมกับห่านเพื่อจัดการกับปัญหาอาชญากรรมแล้ว

สหายฉาง กวนเส็ง หัวหน้าตำรวจกล่าวว่า ตำรวจห่านเหล่านี้ “ดุมาก” และมีประสาทในการรับฟังเสียงชั้นยอด

(หมายเหตุ: จารบีมีหลายเกรด ถ้าจะเอาไอเดียนี้ไปใช้ก็เลือกแบบลื่นๆหน่อยก็แล้วกัน - ข่าวนี้มาจากปี 2013 – ผมเอง)

ภาพจากแฟ้ม: จารบี

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน



วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:หนุ่มตี๋ฟ้องเมียเพราะหน้าตาดูไม่ได้


หนุ่มตี๋ฟ้องเมียเพราะหน้าตาดูไม่ได้ มีลูกออกมาก็หน้าตาอัปลักษณ์

Photo credit: pixabay.com


เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองจีน – อาเจี๋ยน เฟงหนุ่มเมืองเหนือของจีนตกหลุมรักสาวหมวยคนหนึ่ง เธอสวย เธอดี และคงมีฐานะ

ความรักของหนุ่มเจี๋ยนและอาหมวยหวานชื่น หอมมันจนในทึ่สุดพวกเขาก็ร่วมหอลงโรงกัน  แต่แล้วหนุ่มเจี๋ยนก็แทบช็อคเมื่อสาวหนวยที่หน้าตาสวยเริ่ดคลอดลูกสาวออกมา

“ลูกของเราหน้าตาน่าเกลียดอย่างไม่น่าเชื่อ อีทำให้อั๊วกลัว” อาเจี๋ยนกล่าว

อาเจี๋ยนถึงกับสงสัยว่าเขาเป็นพ่อจริงๆของเด็กหรือเปล่าในเมื่อเด็กไม่เหมือนเขาหรือเมียของเขาเลยสักนิด

อาเจี๋ยนกล่าวหาเมียว่ามีชู้ เมียเขาจึงต้องยอมรับว่า ก่อนที่เธอจะเจอกับเขา เธอเคยผ่านมีดหมอ ทำศัลยกรรมพลาสติกมาแล้ว และดูเหมือนเธอจะจ่ายเงินเพื่อเปลี่ยนแปลงใบหน้าไปเกือบสี่ล้านบาทเลยทีเดียว

เจี๋ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องศาล โดยฟ้องว่าเขารู้สึกว่าถูกเมียหลอกลวง เพราะก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเธอสวยตามธรรมชาติ

เนื่องจากเขาไม่รู้มาก่อนว่าเมียเคยทำศัลยกรรม ศาลจึงให้เขาชนะคดี ได้เงินทดแทนไปสี่ล้านกว่าบาท

ข่าวไม่ได้บอกว่าอาเจี๋ยนกับภรรยายังอยู่ด้วยกันหรือเปล่า น่าสงสารจริงๆนะหนุ่มคนนี้
ข่าวนี้เป็นข่าวเก่าเมื่อสองปีที่แล้ว

ขอขอบคุณภาพจาก: Pixabay.com

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน


วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:ยังงี้ต้องเจอกันหน้าเสาธง

นักเรียนถูกพักการเรียนเพราะช่วยชีวิตเพื่อนร่วมชั้น

ภาพจากแฟ้ม / เครื่องเขียน


เมื่อแอนโทนี่ รูแอลาส เห็นเพื่อนซึ่งเป็นหืดหายใจไม่ออก เขาจึงอุ้มเธอไปห้องพยาบาล แต่เขากลับถูกพักการเรียนสองวันเพราะไปออกจากห้องโดยไม่ได้รับอนุญาติ

“ผมเหมือนอะไร? ผมถูกพักการเรียนที่ทำยังงี้? ผมพยายามจะช่วยเธอ” แอนโทนี่ -นักเรียนในโรงเรียนมัธยมมิดเดิล เกทเวย์ ในเมืองคิลลีน รัฐเท็กซัส กล่าว

“เขาอาจจะไม่ทำตามคำสั่งทุกครั้ง แต่เขามีจิตใจที่ประเสริฐ” แมนดี้ คอร์เตส แม่ของแอนโทนี่ เสริม

จากรายงาน แอนโทนี่ตัดสินใจออกจากห้องเรียนเมื่อวันอังคารเมื่ออาการหอบหืดของเพื่อนกำเริบขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอหายใจไม่ออกและส่งเสียงฮืดฮาดๆ ในขณะนั้น ไม่มีใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

ครูเขียนรายงานในบันทึกการเรียนการสอน – ซึ่งสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเอาออกมาเผยแพร่ด้วย – ว่าระหว่างการเรียนคาบที่ 5 นักเรียนคนหนึ่งบอกฉันว่าเธอหายใจไม่ออกเพราะโรคหืดกำเริบ ในขณะที่ฉันกำลังรอคำตอบจากพยาบาล เด็กคนนั้นก็ตกจากเก้าอี้ ลงมานอนอยู่กับพื้น ตอนนั้นแอนโทนี่ก็วิ่งเข้ามาอุ้มเธอ เขาพูดว่า “เวรเอ๊ย เราไม่มีเวลารอฟังข่าวจากพยาบาลหรอก” พูดแล้ว เขาก็อุ้มเพื่อน เดินออกไปจากห้อง”

“ผมแหกกฎ” แอนโทนี่ยอมรับ “แต่เธอต้องการความช่วยเหลือ ใช่ เธอต้องการความช่วยเหลือ” 

“ฉันคิดว่า...เขาไม่ควรพูดหยาบคายยังงั้น แต่เขาไม่ควรถูกพักการเรียนเพราะเขาต้องช่วยชีวิตเธอ” แม่ของแอนโทนี่เสริม

เด็กหญิงที่เป็นหืดส่งข้อความมาขอบคุณแอนโทนี่เมื่อวันพุธที่แล้ว เธอบอกให้เขารู้ว่าเธอปลอดภัยแล้ว

สำนักงานการศึกษาเมืองคิลลีน ไม่ยอมให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิของ “นักเรียน” 

“สำนักงานการศึกษาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักเรียน เจ้าหน้าที่และสถานที่เป็นอันดับแรก สำนักฯขอตบมือให้กับความพยายามของนักเรียนที่เข้าไปช่วยคนอื่นเมื่อพวกเขาต้องการ”

คอร์เตสไม่ได้ออกความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของสำนักงานฯ แต่พูดว่า “แอนโทนี่เป็นฮีโร่ของฉัน”

ภาพจากแฟ้ม: เครื่องเขียน

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน



วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:เรื่องขำๆของโจร ตอนไม่ดูตาม้าตาเรือ


จะเป็นโจร อย่าทำยังงี้

ลูกกรง / ภาพจากแฟ้ม


คุณ...ผมจะบอกให้ ถ้าคุณจะประกอบอาชีพเป็นโจร สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือเล็งหาเป้าหมายที่ใช่เพราะนั่นคือกุญแจแห่งความสำเร็จอย่างหนึ่ง

บ้านอันเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุดอันดับแรกต้องเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยสมบัติพัสถานและไม่มีคนอยู่ บ้านเป้าหมายที่ดีอันดับที่สองคือบ้านที่คนในบ้านกำลังหลับ แล้วเป้าหมายแบบไหนล่ะที่แย่ที่สุด บ้านที่มีตำรวจอยู่เต็ม? น่าจะใช่ เพราะนั่นเป็นบ้านที่ดาเรน คิมพ์ตัน จากเมืองแอบบิงตัน นอร์ตแฮมตันเลือก 

บ้านที่คิมพ์ตันเลือกถูกงัดเข้าไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนหัวค่ำ เจ้าของจึงโทรไปแจ้งตำรวจและตำรวจก็กำลังตรวจหาร่องรอยของการโจรกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อเขางัดเข้าไป

พอจ๊ะเอ๋กับตำรวจ เขาพยายามใส่เกียร์ถอย แต่ถูกจับได้หลังจากมีการยึกยักกันเล็กน้อย

วันนี้ไม่ตรงกับฤกษ์ดาวโจร นี่เป็นครั้งที่สองที่คิมพ์ตันความพยายามงัดเข้าไปขโมยของในบ้านของคนอื่น เมื่อตอนหัวค่ำ เขาพยายามงัดเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน เขาทำได้แค่ทุบกระจก ทำกระจกบาดตัวเอง เลือดหยดติ๋งๆ และเข้าไปไม่ได้ พอเปลี่ยนเป้าหมาย มางัดบ้านหลังนี้ ก็ถูกจับพอดี

ตำรวจแกะรอยเลือดของเขาไปถึงบ้านหลังแรก...ก็เลยตั้งข้อหาเพิ่มอีกกระทงน่ะสิ

หมายเหตุ: ดาวโจรหรือที่ฝรั่งเรียกว่าดาวซิริอุสไม่ใช่ดาวที่สว่างทั้งปี คนที่อยู่ในประเทศทางซีกโลกเหนือจะเห็นมันในฤดูใบไม้ร่วง – ระหว่างเดือนตุลาคม/พฤศจิกายน - ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของประเทศนั้นๆ

ช่วงเวลาที่จะเห็นดาวดวงนี้ให้ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงเวลาที่ชาวไร่ชาวนาเสร็จจากการขายพืชผลของตน ดังนั้นตอนนั้นพวกเขาจึงมีเงิน และสมัยก่อน เกษตรกรเหล่านี้จะเก็บเงินไว้ที่บ้าน โจรจึงรู้ว่าได้เวลาที่จะออกปล้นกันแล้ว

พวกโจรจะปล้นคนในวันจันทร์ดับ (ประมาณแรม 14 15 ค่ำ) ซึ่งจะไม่มีแสงจันทร์
ถึงแม้แสงจากดาวซิริอุสจะไม่สว่างมาก แต่ก็พอให้โจรเห็นทาง คนก็เลยกำหนดว่าการเห็นดาวซิริอุสเป็นสัญญาณของฤดูแห่งการปล้น

ภาพจากแฟ้ม: ลูกกรง

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน


วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:อัฟริกาใช้รั้วน้ำผึ้งไล่ช้าง ๒ (ตอนจบ)

รั้วน้ำผึ้งของอัฟริกา – ใช้ไล่ช้าง (ต่อจากเมื่อวานนี้)

Photo credit: pexels..com


การทดลองใช้รั้วน้ำผึ้งเป็นครั้งแรกในปี 2009 ประสบความสำเร็จอย่างดี มันสามารถไล่ช้างไปได้หมดยกเว้นช้างพลายเชือกหนึ่ง 

แล้วหลังจากนั้น ดร. - ด้วยความร่วมมือของเดวิด เชลดริค ไวด์ไลฟ์ ทรัสต์ (ดีเอสดับบลิวที)และสายการบินบริติซ แอร์เวย์ - ก็ขยายโครงการช้างกับผึ้งออกไปทั่วอัฟริกา 

ชาวสวนชาวไร่นับพันคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า สำหรับพวกเขา รั้วทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

“ชาวสวนชาวไร่จำนวนมากรู้สึกว่ารั้วใช้งานได้” เนวิล เชลดริค จากเดวิด เชลดริค ไวด์ไลฟ์ ทรัสต์กล่าว “เวลาผมไปเยี่ยม พวกเขาจะพาผมไปดูรอยเท้าช้างด้วยความภาคภูมิใจ รอยเท้าเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าช้างเดินมาที่ไร่และเดินไปยังจุดต่างๆตามรั้วก่อนที่จะย้อนกลับไปยังเขตคุ้มครองสัตว์ป่า ชาวไร่ชาวนามีความสุขกับรั้วมากจริงๆ นอกจากนั้น ก็ยังมีคนในละแวกนั้นมาขอเข้าโครงการอีกเป็นจำนวนมากด้วย”

แองเจล่า คารร์ ฮาร์ทเลย์ ผู้อำนวยการของเดวิด เซลดริค ไวด์ไลฟ์ ทรัสต์กล่าวว่า “นอกจากสวนจะไล่ช้างแล้ว ชาวสวนชาวไร่ก็ยังมีรายได้จากการเก็บน้ำผึ้งขายอีกด้วย”

“นี่แหละคือโครงการประเภทที่เราอยากให้การสนับสนุน” แมรี่ แบร์รี่ หัวหน้าแผนกการลงทุนเพื่อชุมชนของบริติซ แอร์เวย์เสริม “การเป็นหุ้นส่วนระยะยาว ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาดและแสนจะธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ เช่นโครงการของเดวิด เชลดริค ไวดไลฟ์ ทรัสต์ ทำให้เราได้ตอบสนองต่อสังคมในทางที่ดี

การทำโปรเจควิจัยชิ้นนี้ ทำให้ดร.คิง ได้รับรางวัล UNEP/CMS Thesis Award ในปี 2011 “ผมขอแสดงความยินดีกับดร.คิงในฐานะเป็นผู้ชนะเลิศที่ได้รับรางวัลที่สำคัญชิ้นนี้” อาชิม สไตเนอร์ ผู้อำนวยการยูเอ็นอีพีกล่าวในการมอบรางวัล

ขอขอบคุณภาพจาก: pexels.com


อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:อัฟริกาใช้รั้วน้ำผึ้งไล่ช้าง


รั้วน้ำผึ้งของอัฟริกา – ใช้ไล่ช้าง

ผึ้ง / รูปจากแฟ้ม


ต้องขอบคุณนักสัตววิทยา ดร.ลูซี่ คิง ที่มีโครงการ “ช้างและผึ้ง” จนชาวไร่ชาวนาในชนบทของอัฟริกาไม่ต้องกังวลว่าช้างจะมากินพืชกินผักที่ปลูกเอาไว้อีกแล้ว

แนวความคิดของดร. มีชื่อว่ารั้วน้ำผึ้ง – เป็นวิธีการที่มีต้นทุนต่ำและมาจากสิ่งมีชีวิต -  โดยเอารังผึ้งมาแขวนไว้เป็นระยะๆ ห่างกันรังละหลายเมตร เพื่อไล่ช้างไม่ให้มากล้ำกราย

นอกจากนั้น รั้วน้ำผึ้งเป็นผลพลอยได้ที่สำคัญที่มีแต่ให้กับให้ เพราะชาวไร่ชาวนายังขายน้ำผึ้งเป็นรายได้เสริมได้อีกด้วย

จุดเริ่มต้นของไอเดียนี้มาจากการที่ ดร.ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งแล้วพบว่าช้างพยายามหลีกเลี่ยงต้นสีเสียด ต้นส้มป่อย ชะอม กระถิน ( acacia ในภาษาอังกฤษ) – ซึ่งเป็นอาหารโปรด – ถ้าพวกมันเห็นรังผึ้งอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้เหล่านี้

หลังจากนั้น ดร.ก็ใช้เวลาอีกหลายปีศึกษาพฤติกรรมของช้าง อย่างเช่นการบันทึกภาพพฤติกรรมของมันเวลามันได้ยินเสียงหึ่งๆของฝูงผึ้งที่เปิดผ่านลำโพง ดร.ใช้ข้อมูลที่เก็บมาได้ เริ่มพัฒนาระบบรั้วน้ำผึ้งขึ้นมา

ดร.เอาลวดหนึ่งเส้น มัดกับเสาไม้ ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันต้นละสิบแมตร แล้วเอารังผึ้ง (เป็นรังแบบเดียวกับรังผึ้งเลี้ยง)ไปแขวนไว้

วารสารอัฟริกา จีโอกราฟิก รายงานว่า ช้าง “ตามกลิ่นไปหาพืชผักหรือกระสอบใส่ข้าวโพดของชาวนาชาวไร่” ถ้าช้างหิวพอประมาณ มันจะกินอาหารวันละ 400 กิโล – ซึ่งอาจจะทำให้ชาวนาในชนบทไม่เหลืออะไรเลย

ชาวไร่ชาวนาเคยตอบโต้กับการถูกช้างเข้ามากินพืชไร่พืชสวนด้วยวิธีเก่าๆ เช่น ร้องตะโกน จุดไฟไล่ ขว้างด้วยก้อนหิน ปาระเบิดพริก ตีกลองหรือปล่อยสุนัข หรือในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด พวกเขาอาจใช้หอก ใช้หน้าไม้ ซึ่งเป็นอันตรายกับทั้งคนและสัตว์

รั้วไฟฟ้าดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้ แต่สำหรับชาวไร่ชาวนา มันไม่ใช่เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องแพงเกินไป นอกจากนั้น วารสารอัฟริกา จีโอกราฟิกก็ยังรายงานว่า “รั้วไฟฟ้าจะตัดเส้นทางสัญจรของสัตว์ เป็นผลให้เกิดการโอเวอร์เกร็ซซิ่ง ( overgrazing โอเวอร์เกร็ซซิ่งคือสภาวะที่มีสัตว์อยู่รวมกันมากเกินไปจนกินอาหารหมด เกิดสภาวะดินขาดแร่ธาตุ หญ้าไม่ขึ้น  – ในที่นี้หมายถึงนอกแนวรั้วไฟฟ้า-  ) เป็นผลเสียต่อระบบนิเวศอย่างถาวร”

ในทางกลับกัน รั้วน้ำผึ้งเป็นรั้วที่มาจากสิ่งมีชีวิต รั้วแบบนี้มีผลดีตรงที่ช้างกลัวเสียงผึ้ง ซึ่งอาจเป็นเพราะผิวหนังบริเวณน่องของช้างค่อนข้างจะบอบบาง หรือถ้าช้างถูกผึ้งต่อยภายในโพลงของงวง ช้างจะเจ็บปวดมาก

“เราเอารังผึ้งไปแขวนไว้ โดยทิ้งระยะห่างกันทุกๆ 30 ฟุตตลอดแนว” ดร.กล่าว “ถ้าช้างไปโดนรังผึ้งรังใดรังหนึ่ง หรือไปโดนลวดที่ขึงเอาไว้ รังผึ้งที่อยู่ตามเสาจะแกว่งและปล่อยผึ้งออกมา”

(อ่านต่อวันพรุ่งนี้นะจ๊ะ)

รูปจากแฟ้ม

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก:แค้นนี้ต้องชำระ ๕ ตอน: อ้วนแล้วผิดตรงไหน

อาหมวยแดนมังกรถูกแฟนทิ้งเพราะอ้วน ขู่จะส่งสบู่ที่ทำจากไขมันของอีไปให้แฟนเก่า

Photo credit: pexels.com


เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากอะไรก็ไม่รู้ ถ้าจะให้เดา อาหมวยคนนี้คงต้องเลิกลากับแฟนเก่าก่อนตรุษจีนปีที่แล้วเพราะถูกแม่ของเขากีดกัน พอใกล้จะถึงตรุษจีนปีนี้  อาหมวยก็เลยเตรียมของขวัญเอาไว้ให้กับครอบครัวของอดีตแฟน...

มาดูกันว่าเธอเตรียมของขวัญอะไรเอาไว้

เรื่องราวของอาหมวยที่จะล้างแค้นแฟนเก่าและครอบครัวของเขาโด่งดังไปทั้งยุทธจักร

หลังจากถูกทิ้งเพราะความอ้วน อาหมวยจากมลฑลเหอหนานก็เดินหน้าเอาไขมันส่วนเกินออก เธอไปดูดไขมันและใช้ไขมันเหล่านั้นทำเป็นสบู่ แล้วตอนนี้ก็เตรียมจะล้างแค้นให้กับตัวเองด้วยการส่งสบู่ไปให้แม่ของแฟนเก่าเพื่อเป็นของขวัญ

อาหมวย ซึ่งใช้ชื่อในโซเซียลว่า “เฉียวๆชอบสวยและชอบกิน” โพสต์รูปที่เธอกำลังถือสบู่บนเว็บเหว่ยโบ่เมื่อวันที่ 7 มกราคมพร้อมกับเขียนข้อความเจ็บๆคันๆกำกับเอาไว้ว่า “หยาง เฉียวไล๋ ยังจำวันปีใหม่ปีที่แล้วได้มั้ย?” เธอเขียน “ปีนี้ ฉันไปบ้านคุณไม่ได้ ฉันเลยเอาไขมันของฉันทำเป็นสบู่ ฝากไปให้แม่คุณเอาไว้อาบน้ำ ปีใหม่(ตรุษจีน)เป็นเวลาที่จะมอบของขวัญให้กับผู้ชายต่ำๆที่ตัดสินผู้หญิงจากรูปร่างหน้าตา”

นอกจากนั้น เฉียวๆก็ยังเอาข้อความที่เธอทะเลาะกับหยาง เฉียวไล๋มาโพสต์ด้วย - โดยเธอถ่ายจากหน้าจอ(สกรีนช็อต)

ข้อความที่ทะเลาะกันนั้น เฉียวๆเขียนว่า “ฉันทำสบู่ไว้ก้อนหนึ่งจากไขมันของฉันเพื่อมอบให้แม่ของคุณเอาไว้อาบน้ำ จิตใจจะได้สะอาดขึ้น วันตรุษจีน – คือเวลาที่จะเซอร์ไพร์ส พวกผู้ชายที่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก”

ส่วนหยาง เฉียวไล๋ตอบว่า “ทำไมคุณต้องทำให้ผมดูเลวบนอินเตอร์เน็ต? เรื่องของเรามันจบไปแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเพื่อดูดไขมันและทำให้ผมดูทุเรศ ให้ตายสิ ผมน่ะเหรอตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก คุณไม่ต้องทุเรศแม่ผมหรอก อี***” หยางตบท้ายด้วยการด่า

คำตอบที่ดุเดือดของเขาหยุดเฉียวๆไม่ได้ เธอตอกกลับว่า “คุณบอกว่าฉันอ้วน ฉันก็เลยจะส่งให้สบู่ให้ครอบครัวคุณ เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ!

แต่หลังจากนั้นเธอก็ลบข้อความี่ทะเลาะกันออกไป

แน่นอน เรื่องนี้น่าสนใจปนสะอิดสะเอียน แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าสบู่ที่เฉียวๆถืออยู่ในมือทำจากไขมันของเธอ แล้วก็ไม่ชัวร์ว่าเธอจะส่งไปให้แฟนเก่า หรือแค่ลงรูปเพื่อทำให้เขาอาย แต่ไม่ว่าจะยังไง สุดท้ายก็มีคนเข้ามาอ่านโพสต์ของเธออย่างล้นหลาม ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่เธอต้องการก็ได้

ตั้งแต่โพสต์ครั้งแรก ก็มีคนแชร์ไปแล้วมากกว่า 6000 ครั้ง มีคนคอมเมนท์ 5000 คอมเมนท์และมีคนไลค์เกือบ 3000 ไลค์ ปฎิกิริยาของคนก็คละเคล้ากันไป บางคนคอมเมนท์แผนการที่ยอดเยี่ยมของเธอ แต่บางคนก็เห็นว่ามันรุนแรงเกินไป

หนึ่งในคนที่เมนท์เข้ามาเขียนว่า “ฉันเชื่อว่าเธอจะเจอคนที่ดีกว่า บอกไอ้ผู้ชายคนนั้นให้ไปตายซะ”

อีกคนเมนท์ว่า “คุณพูดถูก อะไรสวยอะไรน่าเกลียดไม่ได้มากับความอ้วนหรือผอมแต่มาจากใจ”
( หมายเหตุ: เธอสวยมากนะ ถ้าอยากดู เมนท์เข้ามาในบล็อกนะ – ผมเอง)

ขอขอบคุณภาพจาก: pexels.com


อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน