วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก: รถแห่งโลกอนาคต

รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองอยู่ไม่ไกลเกินฝัน

รูปแทน

ในขณะที่เรากำลังรอให้กูเกิ้ล หรือแอ๊ปเปิ้ลผลิต ‘โรบ็อตเคลื่อนที่’ ที่จะทำให้คนขับถูกตัดออกไป ผู้ผลิตรถแบบเดิมๆก็เอาเทคโนโลยีใหม่ๆที่น่าสนใจมาใส่ในรถของตนอย่างเงียบๆ ทำให้รถในยุคปัจจุบันก็เจ๋งเช่นกัน

เมื่อเร็วๆนี้หน่วยงานของรัฐบาลซึ่งดูแลด้านรถยนต์ก็เพิ่งออกมาประกาศว่าผู้ผลิตรถใหญ่ๆทุกรายตกลงที่จะติดตั้งระบบเบรกเออีบี (AEB = automatic emergency braking system = เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกรุ่นในปี 2022

เป็นที่รู้กันว่าระบบเบรกเออีบี เป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (รถอัตโนมัติ) และในปัจจุบัน รถยนต์ที่ผลิตในอเมริกาเหนือประมาณ 3% ติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปแล้ว ส่วนรถที่ผลิตในยุโรปติดตั้งไปมากกว่า 3%  คาดกันว่า รถที่ติดตั้งระบบนี้จะเพิ่มสูงกว่า 3% อย่างรวดเร็ว

ระบบเบรกเออีบีจะทำงานเมื่อเซ็นเซอร์พบว่ารถเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป โดยคำนวณจากพื้นฐานของความเร็วของรถคันหน้าและคันหลัง

เมื่อเซ็นเซอร์พบว่ารถเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป มันจะส่งเสียงบี๊บๆหรือสัญญาณเตือนภัยอื่นๆมาบอกคนขับ ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น คนขับไม่ทำอะไรเลย คอมพิวเตอร์จะเข้ามาควบคุมการทำงาน และจะเบรก - หนักเบาเท่าที่จำเป็น - เพื่อป้องกันการชน ระบบส่วนใหญ่ที่ใช้ในปัจจุบันจะหยุดรถเมื่อรถแล่นด้วยความเร็วต่ำกว่า 35 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือประมาณนั้น แต่มันคงทำงานในความเร็วที่สูงกว่านี้เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น

นอกจากนี้ ในปัจจุบันก็ยังมีระบบอัตโนมัติอื่นๆที่ติดมากับรถ เช่นระบบเตือนการเปลี่ยนเลนซึ่งจะเตือนคนขับว่าคุณกำลังขับเข้าไปในเลนของคนอื่น และระบบอีเลคโทรนิคมอนิเตอริ่ง โดยระบบนี้จะเห็นรถที่คนขับอาจจะมองไม่เห็นจากจุดอับสายตาในกระจกมองหลัง ระบบทั้งสองจะเตือนคนขับว่ารถอยู่ในสภาวะที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุ

เบ็นซ์ บีเอ็ม อินฟินิติ (บริษัทลูกของนิสสัน) เทสล่า (รถที่ขับเคลื่อนดัวยพลังงานไฟฟ้า) มีระบบพวงมาลัยกึ่งอัตโนมัติ (limited forms of automated steering) เป็นออฟชั่น ส่วนคาดิแลค (ของจีเอ็ม) จะมีฟิเจอร์ใหม่เรียกว่า “ซูเปอร์ครูซ” ซึ่งจะทำให้คนขับสามารถปล่อยมือจากพวกมาลัยและยกเท้าออกจากคันเร่งตอนใช้ระบบครูซคอนโทรลบนไฮเวย์

แต่ในสภาพถนนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คงจะยังอีกนานกว่าระบบเหล่านี้จะทำให้รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองจากจุดเอไปยังจุดบีโดยไม่มีอินพุดจากคน มันคงต้องใช้เวลาอีกหนึ่งหรือสองทศวรรษกว่าจะมีรถที่สามารถขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เทคโนโลยีที่กำลังจะมาในเร็วๆหรือที่กำลังแพร่หลายอยู่ในขณะนี้จะทำให้รถหลายยี่ห้อกลายเป็นรถกึ่งอัตโนมัติและช่วยทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะโดยทั่วไป คอมพิวเตอร์จะควบคุมรถได้ดีกว่าคน

บรรดานักเลงรถอาจคร่ำครวญเมื่อเห็นว่ามันเหมือนกับโรบ๊อตกำลังเข้ามายึดครองรถ แต่การนำเทคโนโลยี – มาทำงานแทนบางสิ่งบางอย่างที่มนุษย์ต้องทำในตอนนี้ – มาใช้ก็ดีและมีความสำคัญไม่น้อย หนึ่งในนั้นก็คือดีสำหรับคนขับรถที่อายุมาก เพราะเทคโนโลยี – ซึ่งสามารถลดความผิดพลาดของมนุษย์ - อาจทำให้คนขับที่อายุมากขับรถได้ยาวนานยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นภัยต่อตัวเองและคนอื่นน้อยลง

นอกจากนั้นผู้ปกครองหลายๆคนก็อาจจะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อรถที่สามารถตัดสินใจแทนการตัดสินใจผิดๆของนักซิ่งวัยรุ่น โดยจะหมุนพวงมาลัยและแตะเบรก พาพวกเขากลับมายังจุดที่ปลอดภัย

สำหรับบริษัทเทคโนโลยี - ซึ่งน่าจะเป็นคนปฏิวัติวงการรถยนต์ – นั้น พวกเขายังตามหลังผู้ผลิตรถยนต์หน้าเก่าอีกไกล...ไกลเกินกว่าคนทั่วไปจะรู้ ถึงแม้แอ๊ปเปิ้ลและกูเกิ้ลจะมีแผนกรถยนต์และมีพนักงานไม่น้อย แต่ก็ไม่แน่ว่าบริษัททั้งสองจะสร้างรถยนต์ พวกเขาน่าจะเขียนโปรแกรมเชื่อมต่อและพยายามขายให้กับผู้ผลิตรถยนต์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โปรแกรมดังกล่าวอาจมีฟีเจอร์สำหรับขับเคลื่อนรถอัตโนมัติรวมอยู่ด้วย

สรุปว่าถึงแม้จะไม่มีแอ๊ปเปิลหรือกูเกิ้ล รถขับเคลื่อนอัตโนมัติก็จะมาแน่...เพราะตอนนี้โรบ๊อตมีอยู่ทุกแห่ง

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: Wikimedia commons / infiniti M56S / by IFCAR

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น