วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559

นักโบราณคดีขุดพบเศษกระทะนอนสติ๊กโบราณ

นักโบราณคดีขุดพบเศษกระทะ



เมื่อหกสิบปีที่แล้ว วิศวกรชาวฝรั่งเศสชื่อมาร์ค เกรกัวร์ ตั้งบริษัทเทฟาลขึ้น บริษัทนี้ผลิตเครื่องครัวแบบนอนสติ๊กขึ้นมาเป็นครั้งแรกของโลก – หรือตามที่เราคิดจนกระทั่งบัดนี้ 

แต่เมื่อเร็วๆนี้ นักโบราณคดีในอิตาลีพบหลักฐานว่ากระทะแบบนอนสติ๊ก (ที่บ้านเราเรียกกันติดปากว่ากระทะเทฟล่อน) เป็นอุปกรณ์สำคัญชื้นหนึ่งในครัวของคนในอาณาจักรโรมันเมื่อประมาณ 2000 ปีที่แล้ว

ถึงแม้จะมีคนเคยคิดมาก่อนว่าชาวโรมันใช้เครื่องครัวที่มีความคิดสร้างสรรค์เช่นนี้มาก่อน แต่ยังไม่มีการค้นพบหลักฐานที่เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อน จนกระทั่งบัดนี้

มาร์โก้ กีกลิโอ กับ จีโอวานนี่ บอร์รีแอลโล และสเตฟาโน อิวาโรนี นักโบราณคดีของมหาวิทยาลัยนาโปลี ขุดพบกระทะอยู่ในหลุม – ซึ่งเปรียบได้ว่าเป็นที่ทิ้งขยะของเมืองคูมี (เมืองคูมีเป็นเมือง ซึ่งเคยอยู่ใกล้กับเมืองนาโปลีในปัจจุบัน) โดยพบชิ้นส่วนต่างๆของฝา หม้อและกระทะประมาณ 50000 ชิ้น

แม้ว่าชิ้นส่วนต่างๆเหล่านี้จะมีรูปทรงและความหนาแตกต่างกันไป แต่พวกมันมีลักษณะอย่างหนึ่งที่คล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ – นั่นก็คือการเคลือบสารทำให้ลื่นสีแดง ยิ่งกว่านั้น มันก็ยังเป็นภาชนะในการทำครัวที่เคลือบสารทำให้ลื่นสีแดงที่หนังสือวิธีปรุงอาหารของชาวโรมันโบราณ ชื่อ เดอ เรอ โกกีนาเรีย  กล่าวถึง

หนังสือการทำอาหารเล่มนี้พูดถึงกระทะชนิดนี้และต้องให้เอามาใช้เวลาทำสตูเนื้อ

“เราพบที่ทิ้งขยะเต็มไปด้วยชิ้นส่วนของเครื่องครัวที่เคลือบสารสีแดงเอาไว้ข้างใน” กิกีลีโอกล่าว “มันเป็นที่ทิ้งขยะของโรงงานเครื่องปั้นดินเผา นี่แสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกว่าเครื่องครัวจากเมืองคูมีถูกผลิตในเมืองนี้จริงๆ”

แม้ว่าชิ้นส่วนที่พบจะพบอยู่ในสถานที่ๆทีมนักโบราณคดีเหล่านี้จะเรียกว่ากองขยะ แต่พวกเขาก็อึ้งกับจำนวนที่ค้นพบ

“คูมาดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางสำคัญในการผลิตกระทะแบบนอนสติ๊กที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอาณาจักรโรมัน” กิกีลีโอกล่าว “การค้นพบกองขยะเช่นนี้เป็นความฝันของนักโบราณคดีจริงๆ”

ถึงแม้ชิ้นส่วนที่ค้นพบจะดูมาก แต่การขุดสำรวจพื้นที่ๆเต็มไปด้วยโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาก็เพิ่งขุดได้แค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น

หลังจากตรวจวิเคราะห์เครื่องครัวเหล่านี้ กิกีลิโอกล่าวว่ามันมีอายุย้อนกลับไปในสมัยโรมันในยุคที่ออกกัสตุส และทีเบอรีอัสครองราชย์เมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาลถึง 37 ปีหลังคริสตกาล

แม้ว่าพื้นที่ส่วนที่เหลือจะเต็มไปด้วยหม้อและกระทะจำนวนมากมายมหาศาล แต่ก็ไม่รู้ว่านักโบราณคดีทีมนี้จะขุดต่อไปหรือไม่

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: Wikimedia Commons/ Photo credit: Andervan 
                                                Photo description:ฺ Blintzes in frying pan 

อ่านเรื่องแปลกได้เป็นประจำที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น