ระบบควบคุมในรถรุ่นใหม่ๆ
![]() |
Photo credit: pexels.com |
เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า น่าจะเคยเอามาให้อ่านแล้ว ที่เอามาลงวันนี้เพื่อจะทดสอบรูปภาพตอนแชร์ทางเฟสบุ๊กว่าจะเพี้ยนเหมือนสองสามวันที่แล้วหรือเปล่า
ระบบควบคุมในรถรุ่นใหม่ๆ ไม่ได้ทำให้ปวดหัวเท่านั้น มันยังอาจจะทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัยอีกด้วย
เมื่อพูดถึงเกียร์อัตโนมัติแบบเดิมๆในรถยนต์ เวลาคุณจอด
คุณจะดันคันเกียร์ขึ้นไปอยู่ด้านบนสุด (P)
เวลาจะถอยหลังคุณก็ดึงคันเกียร์ลงมาหนึ่งจังหวะ (R)
เวลาจะใส่เกียร์ว่าง คุณก็ดึงลงมาอีกหนึ่งจังหวะ (N)
และดึงลงมาอีกทีเมื่อจะเดินหน้า (D) มันเป็นยังงี้มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์นู้นแล้ว
มันทำให้คุณเห็นและรู้สึกว่าเกียร์อยู่ถูกที่ถูกทางได้ด้วยตาของคุณเอง แต่ตอนนี้
รถใหม่ๆจะให้มีคันเกียร์อีเลกโทรนิกส์ มีปุ่มให้กด หรือแม้แต่การใช้หน้าปัดแบบทัช
สกรีนเพื่อใส่เกียร์
รถยนต์ยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง มีบางรุ่นที่คุณต้องดันปุ่มควบคุมเกียร์อีเลกโทรนิกส์ไปข้างหน้าเพื่อจะขับถอยหลัง
แต่ในขณะที่รถกำลังถอยหลัง ปุ่มควบคุมเกียร์จะกระเด้งกลับมาตรงกลาง
รถยนต์ดังอีกยี่ห้อหนึ่ง มีบางรุ่น
เอาคันเกียร์ไปอยู่ใต้พวงมาลัยในตำแหน่งที่รถยี่ห้ออื่นๆใช้เป็นคันโยกที่ปัดน้ำฝน
มีรายงานว่าปุ่มควบคุมเหล่านี้ นอกจากจะทำให้งงแล้ว
ยังอาจจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่ได้อีกด้วย
สำหรับคนที่ขับรถมานาน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์การเปลี่ยนเกียร์เหล่านี้
เกียร์รุ่นใหม่ๆบังคับให้กล้ามเนื้อของคนขับลืมความทรงจำและการกระทำเดิมๆที่สั่งสมมานาน ในกรณีฉุกเฉิน
สมองของเขาอาจจะสั่งให้เขาทำตามความเคยชินในอดีตจนใส่เกียร์ผิดเกียร์ถูกได้
สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แม้แต่การสตาร์ทเครื่องและดับเครื่องก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยากไปแล้ว
รถลินคอล์น เอ็มเคซี รุ่นปี 2015 เอาปุ่มกดสตาร์ทไปติดไว้บนคอนโซลหน้ารถ ซึ่งคุณอาจจะเผลอไปโดนได้
เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแล้วกับคนขับหลายราย เมื่อต้นปีที่แล้ว
ลินคอล์นจึงเรียกรถคืน เอาไปเปลี่ยนตำแหน่งติดตั้งปุ่มสตาร์ทใหม่
ยังดีที่รถใหม่ๆบางยี่ห้อก็ไม่ได้ออกแบบให้ยุ่งยากจนเกินเหตุ ข่าวบางชิ้นรายงานว่ารถหลายรุ่นของเชฟโรเลท
ฮุนไดและเกีย มีปุ่มควบคุมแบบพื้นๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
ทั้งๆที่มีอุปกรณ์ไฮเทคมากมาย
(อย่าว่าแต่รถไฮเทคเลย ในบ้านเราซึ่งขับเลนซ้าย ถ้าให้ขับรถตระกูลยุโรปกับตระกูลญี่ปุ่น
สลับกันแบบวันนั้นคันวันนี้คันก็งงแล้ว จะเปิดไฟเลี้ยวก็กลายเป็นเปิดที่ปัดน้ำฝนกันบ่อยๆ
- 555)
ขอขอบคุณภาพจาก: pexels.com
อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น