วัคซีนป้องกันโรคหัดช่วยชีวิตเด็กมาแล้วหลายล้านคนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 แต่ความคืบหน้าก็ยังเป็นไปอย่างช้าๆ
![]() |
Photo crdit: Terri Hyde M.D./CDC-PHI |
เมื่อสองสามวันที่แล้ว มีข่าวเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการได้ไปขอรับตัวเด็กหญิงอายุไม่ถึงขวบจากยายผู้เลี้ยงดูเนื่องจากยายไปลงบันทึกประจำวันตามหาแม่แท้ๆของเด็ก
โดยคุณยายอยากให้แม่ของเด็กมาแจ้งเกิด เพื่อจะได้มีเอกสารทางราชการไว้ใช้สิทธิ์ในการรักษา
ฉีดวัคซีน และเข้าเรียนต่อในอนาคต...
ที่เอาข่าวนี้มาลงก็เพราะมีข่าวเรื่องการฉีดวัคซีน
โดยเฉพาะโรคหัด จากองค์การอนามัยโลก
องค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า
วัคซีนป้องกันโรคหัดช่วยชีวิตคนมาแล้วมากกว่า 17 ล้านคนในเวลา 15 ปีที่ผ่านมา
แต่เตือนว่าตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา การฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงย่ำเท้าอยู่กับที่
การเสียชีวิตสืบเนื่องจากโรคหัดลดลงเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ต้นศตวรรตที่
20 โดยลดจาก 546,800 คนในปี 2000 เหลือ 114,900 คนในปีที่แล้ว – องค์กรอนามัยของสหประชาชาติระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง
องค์การอนามัยโลกคาดว่ามีคน 17.1 ล้านคนรอดชีวิตตั้งแต่ปี ค.ศ.
2000 ส่วนใหญ่สืบเนื่องมาจากการฉีดวัคซีนสามารถทำได้ทั่วถึงขึ้น
โรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อง่าย
คนเป็นหัดจะมีผื่น(เป็นเม็ดๆ)ขึ้นตามตัวและเป็นไข้ มันอาจจะรุนแรงจนทำให้สมองพิการ
หูหนวกและตาบอด หรือในบางกรณี อาจทำให้เสียชีวิตได้
ในช่วงสิบปีแรกของศตวรรษที่ 20 การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด(เข็มแรก)ให้กับเด็กทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก
72 เป็น 85 เปอร์เซ็นต์
แต่น่าเศร้าที่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นมาอัตราการฉีดวัคซีนไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย
“เราจะลดการป้องกันไม่ได้”ฌอง แมรี โอโคโว
เบเล หัวหน้าฝ่ายเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและวัคซีนขององค์การอนามัยโลกแถลง
“ถ้าเด็กไม่ได้ฉีดวัคซีนตามกำหนด และการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนของประเทศเข้าไปไม่ถึงพวกเขา
เราจะไม่สามารถปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคของนาๆประเทศได้”
เขาเตือน
เมื่อปีที่แล้ว เด็ก 221
ล้านคนทั่วโลกได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด
แต่ความพยายามเหล่านี้ยังไม่พอ โรเบิร์ต
ลินกินส์ จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี)เน้น
“เมื่อปีที่แล้ว เด็กจากทั่วโลกมากกว่า 100,000 คนเสียชีวิตเพราะโรคหัด
มันเป็นโศกนาฏกรรมที่สามารถป้องกันได้ง่ายๆถ้าเราพยายามสอดส่องและฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงขึ้น”
โรคหัดยังเป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปในประเทศที่กำลังพัฒนาหลายประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในทวีปอัฟริกาและเอเซีย และมากกว่า 95
เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตเพราะโรคหัดเกิดขึ้นในประเทศยากจนที่โครงสร้างพื้นฐานทางด้านสุขภาพอ่อนแอ
แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ โรคหัดก็เคยระบาดในสหรัฐอเมริกาและในยุโรป
สวนทางกับการฉีดวัคซีนบางอย่างตามโปรแกรมที่เพิ่มขึ้น
คนจำนวนมาก ที่ไม่พาเด็กไปฉีดวัคซีน กล่าวว่าพวกเขากลัวว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด
คางทูมและหัดเยอรมัน (เอ็มเอ็มอาร์) จะทำให้เด็กเป็นเด็กออทิสติก
ความกลัวเช่นนี้มาจากทฤษฎีๆหนึ่ง
แต่การวิจัยอีกหลายชิ้นหลังจากนั้นไม่ยอมรับทฤษฎีนี้
ทฤษฎีผิดๆที่ว่านี้มาจากบทความชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในหนังสือ
แลนเซ็ท เมดิกัล เจอร์นัล ในปี 1998
ทิป: โรคหัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นไม่บ่อยในสหรัฐ
แต่เกิดขึ้นบ่อยในประเทศอื่น
ไวรัสตัวนี้ติดต่อง่ายและระบาดได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ ที่คนไม่ได้ฉีดวัคซีน คาดกันว่าปีหนึ่งๆมีเด็กเป็นโรคหัด 20 ล้านคนและเสียชีวิต 146,000 คน – หรือเท่ากับมีคนตาย 400 รายทุกวัน หรือประมาณ 17 คนทุกชั่วโมง
ซีดีซีแนะนำให้เด็กทุกคนฉีดวัคซีนกันโรคหัด คางทูมและหัดเยอรมัน
(เอ็มเอ็มอาร์) สองเข้ม เข็มแรกเมื่ออายุ 12 ถึง 15 เดือน เข็มที่สองเมื่ออายุ
4 ถึง 6 ขวบ
เด็กสามารถฉีดเข็มที่สองเร็วกว่านี้ได้ แต่ต้องห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 28 วัน
สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้คุณปอ ทฤษฏี ให้หายไวๆ
และขอให้คนไทยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกเร็วๆ
ขอขอบคุณภาพจาก: PHIL/CDC ภาพนี้ถ่ายที่ประเทศเมียนมาร์เมื่อปี
2014 โดย Terri
Hyde,M.D.,M.P.H.นักระบาดวิทยาของซีดีซี
ในภาพจะเห็นแม่กำลังอุ้มลูกสาวเล็กๆให้พยาบาลฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดที่ไหล่ข้างซ้าย
อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น