วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วัคซีนป้องกันโรคหัดช่วยชีวิตเด็กมาแล้วหลายล้านคนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 แต่ความคืบหน้าก็ยังเป็นไปอย่างช้าๆ

วัคซีนป้องกันโรคหัดช่วยชีวิตเด็กมาแล้วหลายล้านคนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 แต่ความคืบหน้าก็ยังเป็นไปอย่างช้าๆ


Photo crdit: Terri Hyde M.D./CDC-PHI

เมื่อสองสามวันที่แล้ว มีข่าวเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการได้ไปขอรับตัวเด็กหญิงอายุไม่ถึงขวบจากยายผู้เลี้ยงดูเนื่องจากยายไปลงบันทึกประจำวันตามหาแม่แท้ๆของเด็ก

โดยคุณยายอยากให้แม่ของเด็กมาแจ้งเกิด เพื่อจะได้มีเอกสารทางราชการไว้ใช้สิทธิ์ในการรักษา ฉีดวัคซีน และเข้าเรียนต่อในอนาคต...

ที่เอาข่าวนี้มาลงก็เพราะมีข่าวเรื่องการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะโรคหัด จากองค์การอนามัยโลก

องค์การอนามัยโลกกล่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า วัคซีนป้องกันโรคหัดช่วยชีวิตคนมาแล้วมากกว่า 17 ล้านคนในเวลา 15 ปีที่ผ่านมา แต่เตือนว่าตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา  การฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงย่ำเท้าอยู่กับที่

การเสียชีวิตสืบเนื่องจากโรคหัดลดลงเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ต้นศตวรรตที่ 20 โดยลดจาก 546,800 คนในปี 2000 เหลือ 114,900 คนในปีที่แล้ว – องค์กรอนามัยของสหประชาชาติระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง

องค์การอนามัยโลกคาดว่ามีคน 17.1 ล้านคนรอดชีวิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ส่วนใหญ่สืบเนื่องมาจากการฉีดวัคซีนสามารถทำได้ทั่วถึงขึ้น

โรคหัดเป็นโรคที่ติดต่อง่าย คนเป็นหัดจะมีผื่น(เป็นเม็ดๆ)ขึ้นตามตัวและเป็นไข้ มันอาจจะรุนแรงจนทำให้สมองพิการ หูหนวกและตาบอด หรือในบางกรณี อาจทำให้เสียชีวิตได้

ในช่วงสิบปีแรกของศตวรรษที่ 20 การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด(เข็มแรก)ให้กับเด็กทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 72 เป็น 85 เปอร์เซ็นต์ แต่น่าเศร้าที่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นมาอัตราการฉีดวัคซีนไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย

“เราจะลดการป้องกันไม่ได้”ฌอง แมรี โอโคโว เบเล หัวหน้าฝ่ายเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและวัคซีนขององค์การอนามัยโลกแถลง

“ถ้าเด็กไม่ได้ฉีดวัคซีนตามกำหนด และการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนของประเทศเข้าไปไม่ถึงพวกเขา เราจะไม่สามารถปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคของนาๆประเทศได้” เขาเตือน

เมื่อปีที่แล้ว เด็ก 221 ล้านคนทั่วโลกได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด

แต่ความพยายามเหล่านี้ยังไม่พอ โรเบิร์ต ลินกินส์ จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (ซีดีซี)เน้น

“เมื่อปีที่แล้ว เด็กจากทั่วโลกมากกว่า 100,000 คนเสียชีวิตเพราะโรคหัด มันเป็นโศกนาฏกรรมที่สามารถป้องกันได้ง่ายๆถ้าเราพยายามสอดส่องและฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงขึ้น”

โรคหัดยังเป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปในประเทศที่กำลังพัฒนาหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในทวีปอัฟริกาและเอเซีย และมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตเพราะโรคหัดเกิดขึ้นในประเทศยากจนที่โครงสร้างพื้นฐานทางด้านสุขภาพอ่อนแอ

แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ โรคหัดก็เคยระบาดในสหรัฐอเมริกาและในยุโรป สวนทางกับการฉีดวัคซีนบางอย่างตามโปรแกรมที่เพิ่มขึ้น

คนจำนวนมาก ที่ไม่พาเด็กไปฉีดวัคซีน กล่าวว่าพวกเขากลัวว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูมและหัดเยอรมัน (เอ็มเอ็มอาร์) จะทำให้เด็กเป็นเด็กออทิสติก ความกลัวเช่นนี้มาจากทฤษฎีๆหนึ่ง แต่การวิจัยอีกหลายชิ้นหลังจากนั้นไม่ยอมรับทฤษฎีนี้

ทฤษฎีผิดๆที่ว่านี้มาจากบทความชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในหนังสือ แลนเซ็ท เมดิกัล เจอร์นัล ในปี 1998

ทิป: โรคหัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นไม่บ่อยในสหรัฐ แต่เกิดขึ้นบ่อยในประเทศอื่น ไวรัสตัวนี้ติดต่อง่ายและระบาดได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ ที่คนไม่ได้ฉีดวัคซีน คาดกันว่าปีหนึ่งๆมีเด็กเป็นโรคหัด 20 ล้านคนและเสียชีวิต 146,000 คน – หรือเท่ากับมีคนตาย 400 รายทุกวัน หรือประมาณ 17 คนทุกชั่วโมง
ซีดีซีแนะนำให้เด็กทุกคนฉีดวัคซีนกันโรคหัด คางทูมและหัดเยอรมัน (เอ็มเอ็มอาร์) สองเข้ม เข็มแรกเมื่ออายุ 12 ถึง 15 เดือน เข็มที่สองเมื่ออายุ 4 ถึง 6 ขวบ เด็กสามารถฉีดเข็มที่สองเร็วกว่านี้ได้ แต่ต้องห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 28 วัน

สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้คุณปอ ทฤษฏี ให้หายไวๆ และขอให้คนไทยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกเร็วๆ


ขอขอบคุณภาพจาก: PHIL/CDC ภาพนี้ถ่ายที่ประเทศเมียนมาร์เมื่อปี 2014 โดย Terri Hyde,M.D.,M.P.H.นักระบาดวิทยาของซีดีซี ในภาพจะเห็นแม่กำลังอุ้มลูกสาวเล็กๆให้พยาบาลฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดที่ไหล่ข้างซ้าย

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น