วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: ผู้หญิงขาดแคลน? ก็ให้ผู้ชายหลายคนมีภรรยาคนเดียวกันสิ!!!

ผัวเดียวเมียเดียวมันเชยไปแล้ว เดี๋ยวนี้ต้องผัวเยอะ เมียเดียว – นักเศรษฐศาสตร์แนะ


Tea
Photo credit: Pixabay.com


“นั่นเป็นทางแก้ปัญหาการมีชายโสดมากกว่าผู้หญิงของจีน” ฉี ชูชิ ศาสตราจารย์ทางเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และการคลังฉีเจี้ยนเขียนในบล็อก   อาจารย์เสนอแนวความคิดที่อนุญาตให้ผู้หญิงมีสามีหลายคนจนกลายเป็นเรื่องราวอึกทึกครึกโครมในสังคม   
“การแต่งงานอย่างถูกกฎหมายระหว่างชายกับชายก็เป็นความคิดที่ดีอีกอย่าง” อาจารย์ฉีโพสต์ในบล็อก แต่ไม่นานก็ลบออกไป (อาจารย์มีบล็อกอย่างน้อยสามบล็อก แค่ในซีน่า บล็อก ก็มีคนติดตามมากกว่า 2.6 ล้านคน)
เป็นที่คาดว่าจะมีชายโสดในเมืองจีน 30 ล้านคนในปี 2020 – คนจีนเรียกชายโสดเหล่านี้ว่า “กวงกัน” หรือ “กิ่งไม้ไร้ใบ”
นโยบายคุมกำเนิด (เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา รัฐบาลจำกัดให้ครอบครัวหนึ่งมีลูกได้คนเดียว) บวกกับความต้องการที่จะมีบุตรชายเอาไว้สืบสกุลซึ่งมีอยู่อย่างแพร่หลาย บวกกับการทำแท้งเพื่อเลือกเพศของบุตร ทำให้เกิดความไม่สมดุลทางเพศ โดยมีอัตราการเกิดของเด็กชาย 117 ต่อเด็กหญืง 100 คน   
ข้อเสนอนี้อาจมีกลิ่นไอของโจนาธาน สวิฟท์ แต่อาจารย์ฉีเขียนว่าเขามองปัญหาด้วยมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ล้วนๆ
อาจารย์ฉีตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชาย – โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ยากจน – จำนวนมากจะหาภรรยาไม่ได้ พวกเขาตกอยู่ในสภาพที่มีชีวิตอยู่และตายไปโดยไม่มีลูกหลานคอยดูแลต่อแก่ชรา (ตามกฎหมายของจีน ลูกมีหน้าที่ต้องดูแลพ่อแม่) แต่อาจารย์เชื่อว่ามันมีทางออก
อาจารย์อธิบายว่า “ราคาของสินค้าจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการขาดแคลน – ในกรณีนี้ สินค้าก็คือผู้หญิง ผู้ชายรวยๆสามารถหาภรรยาได้ แต่ผู้ชายจนๆหมดสิทธิ์ แต่ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการให้ผู้ชายสองคนแบ่งผู้หญิงคนเดียวกันใช้”
อาจารย์โพสต์ว่า “การมีกิ่งไม่ไร้ใบมาก มีผู้หญิงน้อย ราคาของพวกเธอจึงเพิ่มขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าตลาดจะไม่สามารถปรับตัวได้ ว่าที่จริง ปัญหาของพวกกิ่งไม้ไร้ใบก็คือปัญหาเรื่องรายได้ ผู้ชายที่มีรายได้เยอะสามารถหาผู้หญิงได้เพราะเขาสามารถจ่ายราคาที่สูงชึ้นได้ แล้วผู้ชายรายได้น้อยล่ะ? ทางแก้อย่างหนึ่งก็คือให้ผู้ชายหลายคนมีเมียคนเดียวกัน”
อาจารย์เสริมว่า “มันไม่ใช่ความคิดที่แปลกพิสดารของผมคนเดียว ในบางพื้นที่ๆห่างไกลและยากจน พี่น้องก็แต่งงานกับผู้หญิงคนเดียวกันมาแล้วๆพวกเขาก็มีชีวิตที่เติมเต็มและมีความสุข”
ประเพณีหนึ่งหญิงหลายชายเคยถูกนำมาใช้มาแล้วในประเทศจีน( ในศตวรรษที่ 18 และ 19) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในถิ่นทุรกันดาร มันเป็นวิธีการใช้ทรัพยากรร่วมกันและหลีกเลี่ยงการแบ่งแย่งทรัพย์สมบัติ
แต่เสียงตอบรับในโซเซียลที่มีต่อขอเสนอของอาจารย์ฉีออกไปในทางที่เป็นเดือดเป็นแค้นเสียมากกว่า
“นี่คนพูดหรือเปล่า” สมาชิกเหวยโบคนหนึ่งเม็นต์
“ปากหมาน่า จารย์ มีหนุมเยอะอยากรู้ว่า เมียจารย์อยู่ไหน” คนอ่านอีกคนโพสต์
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่ออาจารย์ฉีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแต่ไม่สำเร็จ
เมื่อวันอาทิตย์ อาจารย์ออกมาตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนในบล็อกๆหนึ่ง โดยกล่าวว่าคนที่ด่าเขา...มีมันสมองที่มีแต่ศีลธรรมที่ล้าหลังและเห็นแก่ตัว...เข้าขั้นปากว่าตาขยิบก็ว่าได้
“แค่ผมเสนอความคิดว่าเราควรปล่อยให้ผู้ชายจนๆแต่งงานกับผู้หญิงคนเดียวกันเพื่อแก้ปัญหากิ่งไม้ไร้ใบสามสิบล้านคน ผมเลยถูกด่าแบบไม่ยั้ง” อาจารย์เขียน “มีคนโทรศัพท์มาที่มหาวิทยาลัยเพื่อจะตำหนิผม คนพวกนี้กล่าวหาว่าผมโปรโมตความคิดที่ผิดศีลธรรม”
“ถ้าคุณหาวิธีที่ไม่ผิดศีลธรรมไม่ได้ แล้วมาด่าผมทำไมที่ผิดศีลธรรม? คุณอยู่ข้างคู่สามีภรรยาที่มีผู้ชายหนึ่งคนผู้หญิงหนึ่งคน แต่ศีลธรรมของคุณกำลังจะทำให้มีกิ่งไม้ที่ไม่มีใบสามสิบล้านคนอยู่อย่างไม่มีหวังที่จะมีภรรยา แล้วคุณเรียกนั่นว่าศีลธรรมเหรอ?”
นอกจากจะกระตุกหนวดของคนทึ่ยึดมั่นในศิลธรรมที่ตกทอดกันมาแล้ว ข้อเสนอแนะก็ยังไปกระทบกับปากเสียงของกลุ่มที่เรียกร้องสิทธิ์ของเกย์และกลุ่มที่เรียกร้องสิทธิ์สัตรี
“พวกผู้ชายเถียงกันอย่างเปิดเผยว่าจะแบ่งสันปันส่วนผู้หญิงกันยังไง พวกเขาทำอย่างกับว่าผู้หญิงเป็นสินค้าเหมือนบ้านเหมือนรถ” เฉิน ชูเหลียง นักกิจกรรมเพื่อสิทธิ์สตรี ซึ่งเป็นสตรีหนึ่งในห้าคนที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนมีนาคม เขียนบทความให้กับกลุ่ม วี แชท กรุ๊ป ที่ใช้ชื่อว่า กราวน์เบรกกิ้ง (ขออภัยด้วยถ้าอ่านชื่อเธอผิด)
“สิ่งที่อยู่ลึกลงไปในความไม่สมดุลทางเพศของชายโสดสามสิบล้านคน ก็คือเด็กหญิงสามสิบล้านคนซึ่งต้องตายก่อนเกิดเพราะพ่อแม่อยากได้ลูกผู้ชาย แต่ทุกคนกลับมาร้องแรกแหกกระเชอที่มีผู้ชายจำนวนหนึ่งหาเมียไม่ได้”
แต่อาจารย์ฉีก็มีคนสนับสนุนเช่นกัน ในซีน่า บล็อกของอาจารย์ อาจารย์โพสต์เม็นต์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เขียนว่า “จารย์ยืนอยู่เคียงข้างกับชนชั้นกรรมาชีพที่ยากจนที่สุด เมื่อยังไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้ ทำไมเราไม่โยนสิ่งที่เรียกว่าศีลธรรมอันดีทิ้งแล้วแก้ปัญหาสังคมเสียก่อน”
เกล็ดเล็กน้อย: โจนาธาน สวิฟท์ เกิด 30 พฤศจิกายน 1667 เสียชีวิต 19 ตุลาคม 1745  
สวิฟท์เป็นนักเขียนนวนิยาย เป็นนักเขียนแนวเสียดสีประชดประชัน นักเขียนเรื่องมโนสาเร่ และ นักวิจารณ์การเมือง สวิฟท์มีงานเขียนแนวนวนิยายหลายเรื่อง ที่มีชื่อเสียงได้แก่ Gulliver's Travels (การเดินทางของกัลลิเวอร์) เป็นต้น
อาจถือได้ว่าสวิฟท์เป็นผู้นำของนักเขียนแนวเสียดสีประชดระชันของวรรณกรรมอังกฤษ แต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเท่าใดนักในงานเขียนแนวอื่น
ขอขอบคุณภาพจาก:www.Pixabay.com

อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่ 






วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: ติดคุกเพราะขโมยช้อนในห้างดัง

ชายคนหนึ่งถูกจับเพราะขโมยช้อนของวอลมาร์ท – ตำรวจฟลอริดาแถลง


Photo credit: CDC cereal photo by Debora Cartagena


เกร็ก เลอร์เนอร์ วัย 46 ถูกจับเมื่อเวลาประมาณสี่ทุ่มสี่สิบห้าของวันพฤหัสหลังจากเดินออกมาจากห้างวอลมาร์ทในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยไม่จ่ายเป็นค่าช้อนที่หยิบมา

รปภ.ของห้างจับเลอร์เนอร์ไว้ จนตำรวจมาเอาตัวเขาไป

ไมเคิล โรมาโน ตำรวจฟลอริดากล่าวว่า เลอร์เนอร์ขโมยช้อน ราคา 1.12 ดอลลาร์ โดยบอกว่าเขาจะเอาช้อนไปกินซีเรียล

เลอร์เนอร์มีประวัติในแฟ้มอาชญากรรม รวมทั้งตอนนี้ก็ยังมีข้อหาปล้นติดตัวอยู่สองคดี เขาถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์เพราะเดินออกมาจากห้างโดยไม่จ่ายค่าช้อน

ตำรวจตั้งค่าประกันตัวเขาไว้ที่ 2000 ดอลลาร์ (เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนกันยาที่แล้ว)

(เห็นพาดหัวข่าว ตอนแรกก็ว่าจะสงสารแต่พี่แกเป็นโจรชัดๆเลยสงสารไม่ลง - ผมเอง)

ทิป : ซีเรียลคืออาหารธัญพืชผ่านกระบวนการ เรามักจะกินซีเรียลเป็นอาหารเช้า ตามปกติจะใส่นม โยเกิร์ตหรือผลไม้ลงไปด้วย โดยจะกินร้อนหรือเย็นก็ได้ บริษัทผู้ผลิตบางบริษัทโฆษณาสินค้าของตนว่ากินซิเรียลจากข้าวโอ๊ตและซีเรียลที่มีไฟเบอร์สูงดีต่อสุขภาพ ในอเมริกา ซีเรียลมักจะเติมวิตามินลงไปด้วย 
ถึงจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ไม่ควรให้เด็กเล็กกินเร็วเกินไป ไมเชือก็ลองอ่านข้างล่าง
ซีดีซีออกมาเตือนพ่อแม่ที่ให้อาหารแข็ง (เช่น ซีเรียลบางชนิด)แก่เด็กเร็วเกินไป อาจทำให้เด็กเป็นโรคอ้วน เบาหวาน ภูมิแพ้และโรคพุ่มพวง
มีรายงานชิ้นหนึ่งระบุเมื่อเร็วๆนี้ว่า “กุมารแพทย์ ซึ่งรณรงค์ให้เห็นประโยชน์ของการให้ลูกดื่มนมแม่แทนการดื่มนมผง ได้ผลักดันให้ผู้ปกครองเลี่ยงการให้อาหารแข็งแก่เด็กจนกว่าเด็กจะอายุ 6 เดือนพร้อมกันไปด้วย” รายงานชิ้นนี้อธิบายต่อไปว่าการศึกษาของซีดีซี รายงานว่าแม่ที่ให้อาหารแข็ง เช่น ซีเรียลบางชนิด (หมายเหตุ แค่บางชนิดเท่านั้น) แก่ลูกก่อนที่ลูกจะอายุถึง 4 เดือนมีมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์

ขอขอบคุณภาพจาก CDC cereal photo by Debora Cartagena 



อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: ของฝากสำหรับคนรักหมารักแมว (ต่อ)

การทำความสะอาดฟันให้หมาแมวของคุณจำเป็นไฉน

รูปจากแฟ้ม
หมาแมวก็เหมือนคนนั่นแหละ การไปหาหมอฟันเป็นประจำเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่เค้าจะได้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ การทำความสะอาดฟัน – ตามปกติจะต้องวางยาสลบ – จะเป็นการขูดหินปูนและขูดคราบสกปรกเพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกมีปัญหา การมีปัญหาในช่องปากไม่ใช่เรื่องย่อยๆเลยนะ
เรามักจะเห็นกลิ่นปากของสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันเป็นเครื่องบ่งบอกว่าได้เวลาที่คุณต้องดูแลฟันของสัตว์เลี้ยงของคุณแล้ว
ถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงที่คุณไม่อยากให้เข้าใกล้เพราะกลิ่นปากของเค้า นั่นแสดงว่ามีอะไรบางอย่างที่คุณจะละเลยต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แต่อะไรคือสาเหตุของกลิ่นปาก? ฟันผุ? เหงือกอักเสบ? (มีอย่างอื่นอีก - ก็เหมือนคนนั่นแหละ)
การไปหาหมอฟันเป็นประจำ – ตามปกติ ทุกปีหรือสองปีครั้ง – อาจจะแพงเพราะค่ายาสลบ แต่การทำความสะอาดฟันจะช่วยให้สัตว์เลี้ยงของคุณสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีปัญหาไม่มากล้ำกราย และในระยะยาว จะประหยัดค่ารักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้น (ซึ่งจะแพงกว่ามาก)
ทิป: ดูกร เพื่อนๆทั้งหลาย ถึงแม้การพาหมาแมวไปตรวจฟันจะจำเป็น แต่อย่าเพิ่งตกใจ ก่อนอื่น มาลองแปรงฟันให้พวกเค้าก่อนดีมั้ย เพราะอย่างน้อยก็จะน่ายืดเวลาได้หน่อย
แปรงฟันให้หมาแมวเหรอ? ทำยังไง?
ไม่ยากๆ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าตอนนี้มียาสีฟันของหมาแมวมากมายหลายยี่ห้อและมีหลายรส เช่นรสไก้ รสตับ รสมอล์ท เลือกเอามาสักรส แล้วเริ่มเลย
- เริ่มจาก... เอายาสีฟันป้ายนิ้วให้เขาเลีย ถ้าเขาทำตามก็ชมและให้รางวัลหน่อย ถ้าบังเอิญเค้าไปชอบรสที่คุณเลือก คุณอาจต้องเปลี่ยนเป็นรสอื่น ให้เค้าเลียนิ้วจนชินและมีอาการว่ารอเวลาที่จะเลีย (ก็คงจะใช้เวลาสองสามสี่ห้าวัน)
- จากนั้น...ทำให้เค้าชินกับการมีอะไรติดเหงือกติดฟัน โดยเอายาสีฟันป้ายนิ้วของคุณแล้วเอาไปป้ายฟันและเหงือกของเค้า ตอนแรกเลือกเอาฟันซี่ใหญ่ อย่างฟันหน้านะ
- พอเค้าคุ้นกับยาสีฟันและการมีอะไรติดฟันติดเหงือกแล้ว เอาแปรงสีฟันที่คุณจะให้เค้าให้ประจำมาป้ายยาสีฟัน แล้วให้เค้าเลีย เค้าจะได้คุ้นเคยกับปลายแหลมๆของขนแปรง แต่อย่าลืมว่าต้องชมและให้รางวัลเค้าด้วยนะ
- พอเค้าคุ้นเคยกับแปรงและยาสีฟันแล้ว ก็เอาเลย เริ่มแปรงฟันให้เค้าเลย เริ่มทีละซี่สองซี่และอย่าลืมทำให้เขาคิดว่าคุณกำลังเล่นกับเขานะ
- เมื่อเค้าชินกับการแปรงฟันสองสามซี่ ก็โซโลกันเลย แปรงให้ทั่ว แต่ไม่ต้องแปรงฟันด้านในของเค้าก็ได้ เพราะลิ้นของเค้าก็ช่วยไม่ให้เกิดหินปูนได้พอสมควรอยู่แล้ว
- ก็เป็นอันเสร็จพิธี ขอให้โชดดีกับภารกิจนี้นะครับ
รูปจากแฟ้ม

อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่




วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก:หิว?...ผู้โดยสารสายการบินกัดผู้โดยสารอีกคนก่อนเสียชีวิต

ผู้โดยสารสายการบินแอร์ ลิงกัสกัดผู้โดยสารอีกคนก่อนเสียชีวิต

Aer Lingus Airbus A321-200
landing at London Heathrow Airport
Photo credit:
Adrian Pingstone (
 via Wikimedia Commons
(รูปแทน) 


เหตุการณ์แปลกประหลาด ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์บนเครื่องบินของสายการบินแอร์ ลินกัส เที่ยวบิน EI 485 จากลิสบอน โปรตุเกส ไปยังดับลิน ในไอร์แลนด์ ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตหนึ่งคน ข่าวรายงานเมื่อประมาณวันที่ 19 ตุลาคม
ข่าวรายงานว่าชายวัย 24 “คลั่ง” และต้องถูกควบคุมตัวหลังจากมีพฤติกรรมรุนแรงและเริ่ม “กัดผู้โดยสาร”
เจ้าหน้าที่บนเครื่องรายงานว่าชายคนนี้ – ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นชาวบราซิเลี่ยนที่มาเรียนหนังสือในไอร์แลนด์ – สิ้นสติไปหลังจากถูกควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์
ตำรวจไอริสแถลงว่า “กัปตันเปลี่ยนเส้นทาง นำเครื่องไปลงที่สนามบินค็อกเมื่อชายบนเครื่องชัก หมอและพยาบาลที่อยู่บนเครื่องพยายามช่วยเขาแต่เขามาเสียชีวิตที่สนามบินเมื่อเวลาสิบแปดนาฬิกาสี่สิบนาที

ขณะเกิดเหตุ มีผู้โดยสารประมาณ 168 คนและมีพนักงาน 6 คนอยู่บนเครื่อง
บนเที่ยวบินเดียวกันนี้ ตำรวจจับหญิงชาวโปรตุเกส อายุ 44 ได้อีกคนหนึ่ง เธอถูกจับพร้อมยาบ้าหนัก 4ปอนด์ ตำรวจเชื่อว่าเธอเดินทางมากับผู้โดยสารชาวบราซิลที่เสียชีวิต
“เสียงร้องโหยหวนของเขาเป็นเสียงที่ผมไม่เคยได้ยินและไม่อยากจะได้ยินซ้ำอีก” ผู้โดยสารชายอีกคนบอกกับผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุท้องถิ่น เขาเห็นว่าผู้โดยสารที่เสียชิวิตมีอาการเหมือนเป็นลมชัก “ผมอธิบายได้แค่มันเหมือนเสียงของคนที่กำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส มันแย่มากๆ”
(ข่าวนี้มาอยู่ในข่าวแปลกเพราะงงกับรายงานข่าวของหลายๆสำนัก มีสำนักข่าวบางสำนักรายงานว่าชายที่เสียชีวิตกัดผู้โดยสารไปคนหนึ่ง บางสำนักรายงานว่ากัดไปหนึ่งหรือสอง ข่าวบางสำนักรายงานว่าชายผู้เสียชีวิตๆบนเครื่อง บางสำนักรายงานว่าเสียชีวิตหลังจากเครื่องลงจอดแล้ว และข่าวบางสำนักรายงานเรื่องหญิงชาวปอร์ตุเกต บางสำนักก็ไม่เอ่ยถึง ฯลฯ – ผมเอง)

ทิป: แอร์ ลิงกัสเป็นสายการบินสัญชาติไอร์แลนด์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มสนามบินดับลิน ก่อตั้งในปี 1936 ปัจจุบันถูกจัดว่าเป็นสายการบินที่ปลอดภัยที่สุดสายการบินหนึ่งในโลก

ขอขอบคุณภาพจาก: Adrian Pingstone (ARpingstone) Own work, via Wikimedia Commons

อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่
 

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแแปลก:ตำรวจสอนวิธีหลอกเครื่องจับเท็จโดนซิว


อดีตตำรวจโดนซิวเพราะสอนวิชาหลอกเครื่องจับเท็จ


lie detector test
Photo credit:Ed Westcott
via. Wikimedia CCommons
(รูปแทน)

เครื่องจับเท็จ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่ามันจับโกหกและจับคนโกหก แต่อาจจะเพราะมันอยู่มานาน จึงมีคนหารอยรั่วของมันเจอ ดังเช่นอดีตนายตำรวจจาก โอคลาโฮมา คนนี้

อดีตตำรวจนายนี้อวดอ้างว่ารู้ความลับทุกอย่างของเครื่อง ตอนนี้ก็เลยเจอคุก

ดั๊กกลาส วิลเลี่ยมส์ อายุ 69 ไม่เพียงแต่จะรู้วิธีหลอกเครื่องจับเท็จเท่านั้น เขายังเอามันมาประกอบเป็นอาชีพอีกด้วย โดยเขาเป็นเจ้าของเว็บชื่อโปลีกราฟ ดอท คอม ทำธุรกิจขายคู่มือ ขายดีวีดี ไปจนถึงรับสอนแบบตัวต่อตัวให้กับคนที่สนใจ 

ดั๊กกลาสหาเงินจากการสอนคนอื่นว่าจะพูดความจริงหรือความเท็จยังไง ถึงจะหลอกเครื่องโปลีกราฟอันยิ่งใหญ่ได้ แต่โชคร้าย เอฟบีไอได้กลิ่นธุรกิจของเขา จึงให้สายปลอมตัวเข้าไปเป็นลูกค้า จนจับเขาได้อย่างคาหนังคาเขา

ตามข่าว วิลเลี่ยมส์สอนอาชญากรไปแล้วหลายคน ในที่นี่มีทั้งพ่อค้ายาคนหนึ่งและผู้ต้องหาล่อลวงเด็กคนหนึ่ง เขาถูกตัดสินให้จำคุกสองปี ถูกปิดเว็บ และถูกยึดสื่อการสอน หวังว่าเขาจะได้บทเรียนบ้างนะ

(ข่าวไม่ได้บอกว่าเขาถูกตั้งข้อหาอะไร ให้เดาก็น่าจะเป็นข้อหาสนับสนุนให้คนทำผิดกฏหมายน่ะนะ - ผมเอง)

รู้ไว้ใช่ว่า: วิธีจับโกหก
๑.จับโกหกจากการสังเกตภาษากาย โดยจับโกหกจากใบหน้าและสายตา จากภาษากายที่ผิดปกติ จากเสียงตอบโต้และจากการสอบสวนที่มา “จับโกหก” / Wikihow
๒ จับโกหกด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้เครื่องจับเท็จ (Polygraph)ซึ่งตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่มีต่อคำถาม หรือใช้เครื่องเอ็มอาร์ไอ (MRI เครื่องถ่ายภาพสมอง) ซึ่งวัดวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางโดยตรง
การจับโกหกในปัจจุบันใช้เครื่องโปลีกราฟเป็นหลักเนื่องจากราคาเครื่องไม่สูงมากเปรียบเทียบกับเครื่องเอ็มอาร์ไอที่ราคาสูงและต้องการช่างเทคนิคที่ชำนาญ แต่ผลลัพธ์ของเครื่องทั้งสองก็ต่างกันมาก (ยิ่งแพงยิ่งแม่นยำ ว่างั้นเถอะ)

ขอขอบคุณภาพจาก:  Ed Westcott  via. Wikimedia Commons


อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: ช้างบาดเจ็บเดินข้ามทะเลทรายไปที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าเพื่อรับการรักษา

ช้างบาดเจ็บเดินข้ามทะเลทรายไปที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าเพื่อรับการรักษา


ภาพจากแฟ้ม

ข่าวช้างไล่นักท่องเที่ยวบนเขาใหญ่กำลังฮิต มีออกโทรทัศน์ทุกวัน สิ่งที่น่าสังเกตก็คือตอนที่ฝรั่งทิ้งมอเตอร์ไซค์แล้วยืนไหว้ช้างอยู่ข้างทางแล้วช้างไม่ทำร้าย มันแสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะตัวใหญ่ มีพรรคพวกเป็นโขลง มีงาเป็นอาวุธและดุแต่ก็ไม่โหดร้าย    

มาเข้าข่าวกันดีกว่า: ช้างอัฟริกาโขลงหนึ่ง ประกอบด้วยช้างสามเชือก เดินทางหลายร้อยไมล์ฝ่าทะเลทรายเคนยา มาที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่า – เพื่อให้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ – เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนมาแล้ว

ช้างโขลงนี้เดินทางมาที่สถาบันเดวิด เชลดริค ไวด์ไลฟ์ ทรัสต์ หลังจากถูกผู้บุกรุกใช้ธนูอาบยาพิษยิง โดยที่ไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน

เจ้าหน้าที่เชื่อว่าช้างเชือกหนึ่งได้ผสมกับช้างอีกเชือกหนึ่งซึ่งเคยอยู่ในความดูแลของศูนย์ก่อนถูกนำไปปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ แล้วช้างทั้งสองเชือกก็คงจะสื่อสารกันว่ามีคนที่สามารถช่วยพวกมันอยู่ในสถานที่ๆปลอดภัยแห่งหนึ่ง (ผู้เชี่ยวชาญพบว่าช้างมีทักษะในการใช้เหตุผลและสามารถสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ)

“เราแน่ใจว่าพ่อของมาแวนด้ารู้ว่าถ้าพวกมันมาที่ศูนย์อนุรักษ์ จะมีคนช่วยพวกมันและรักษาพวกมัน พวกวัวกระทิงที่บาดเจ็บซึ่งมีถิ่นฐานอยู่ทางตอนเหนือก็ทำเช่นนี้เป็นประจำ พวกมันจะมาที่อิลทิมบ้าเมื่อต้องการความช่วยเหลือ พวกมันรู้ว่าจะมีคนช่วยมัน” เจ้าหน้าที่กล่าว

ทิป: ช้างไทยกับช้างอัฟริกาแตกต่างกันอย่างไร? แตกต่างกันหลายจุดคือ ๑.น้ำหนัก ๒.ส่วนสูงของไหล่ ๓.ปลายงวง ๔.โหนกหัว ๕.ใบหู ๖.ฟัน ๗.งา ๘.แนวสันหลัง ๙.จำนวนเล็บเท้าหน้าและเล็บเท้าหลัง
ภาพจากแฟ้ม: ถ่ายจากศูนย์อนุรักษ์ช้าง

อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่ 

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก:สลด...เล่นเฟซเพลิน ลูกจมน้ำตาย

แม่เล่นเฟซเพลิน ลูกจมน้ำตาย

 

รูปจากแฟ้ม

ศาลตัดสินจำคุกแม่ชาวอังกฤษ อายุ 31 เป็นเวลา 5 ปีเมื่อลูกชาย วัย 2 ขวบของเธอจมน้ำตายในขณะที่เธอกำลังเล่นเฟซบุ๊ก – ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 ตุลา
สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของโจชัวในปี 2014  ศาลได้ตัดสินเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า แคลร์ บาร์เน็ต - แม่ของเด็ก - ทำผิดตามข้อหาทำร้ายเด็กจริง โดยผู้พิพากษาตัดสินว่าสาเหตุมาจากการที่เธอ “เลี้ยงลูกไม่ดีอย่างต่อเนื่อง”
โจชัวมีพี่น้องสามคน ในวันที่เกิดเหตุ เขากำลังเล่นกับพี่หรือน้องคนหนึ่งใกล้ๆกับบ่อเลี้ยงปลาใกล้บ้านแล้วพลัดตกลงไป
อัยการกล่าวว่าบาร์นเน็ตไม่ได้ดูเขาเพราะกำลังอัพโหลดรูปลงในเฟซบุ๊กและรับโทรศัพท์จากเพื่อนชาย
ตอนที่บาร์เน็ตดึงโจชัวขึ้นจากน้ำ เขาหมดสติแล้วไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล – ผู้สื่อข่าวรายงาน
ทนายของบาร์เน็ตแก้ต่างว่าบาร์เน็ตหันไปอ่านเมนต์ในเฟซบุ๊กของเธอ เธอไม่ได้ทำอะไรกับเฟซมากกว่านั้น “แม่คนไหนๆก็อาจหันไปสนใจเสียงโทรศัพท์หรือสนใจเครื่องซักผ้าได้” เขาแย้ง 
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ญาติพี่น้องของบาร์เน็ตเตือนเธอแล้วว่าให้สร้างรั้วล้อมรอบบ่อหรือไม่ก็กลบมันทิ้งไปเสีย และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์น่าสลดใจครั้งนี้ไม่กี่เดือน เพื่อนบ้านของเธอก็แจ้งไปยังหน่วยงานบริการสังคมหลายแห่งหลังจากที่ลูกๆของเธอเกือบจะถูกรถชนเพราะไปเล่นอยู่บนถนนที่มีรถพลุกพล่านโดยไม่มีคนดูแล
“ศาลหวังว่าจะไม่ได้ใครอนุญาตให้คุณดูแลเด็กอีก” ศาลแถลงในการตัดสิน “คุณเป็นอันตรายมากสำหรับเด็กที่คุณอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องในอนาคต”
รูปจากแฟ้ม

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน 



วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: ของฝากสำหรับคนรักหมารักแมว

ของฝากสำหรับคนรักหมารักแมว (ต่อจากสัปดาห์ทีแล้ว)


รูปจากแฟ้ม
๓.    หมาแมวฉันอ้วนไปหรือเปล่า? ถ้าอ้วนไป ฉันจะต้องทำยังไง?
คุณเอาอาหารที่เหลืออยู่บนโต๊ะให้กับเจ้าตัวน้อยของคุณกินทุกคืนเลยหรือเปล่า ถ้าให้ ก็อย่าให้อีกเลยถึงแม้จะอยากให้แค่ไหนก็ตาม
ทำไม? ก็เพราะการกินเข้าไปอีกคำสองคำก็เพิ่มน้ำหนักให้เค้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเค้าไม่ได้ออกกำลัง
คุณจะรู้ได้ยังไงสัตว์เลี้ยงของคุณอ้วนเกินไป และจะต้องทำยังไง
ในกรณีของหมาและแมว คุณจะรู้ได้ด้วยการสัมผัส ให้คุณเอามือลูบไปตรงกลางหลังและอกของเค้า ถ้ามือคุณแตะไม่โดนกระดูกสันหลังและซี่โครงของเค้าโดยไม่ต้องออกแรง ก็แปลว่าสุนัขของคุณน้ำหนักเกิน และเริ่มจะมีอาการไขข้อไม่ดีแล้ว
วิธีที่จะควบคุมไม่ให้มันเป็นเช่นนี้ก็คือการลดน้ำหนัก เวลาไปหาหมอ ขอให้ถามหมอ  ขอให้หมอแนะนำอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสุขภาพของเต้า นอกจากนั้น คุณก็ควรลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อของเค้าลง และต้องเลิกเอาอาหารที่คุณกินป้อนเต้า สุดท้าย ให้เค้าออกกำลังให้มากขึ้น เค้าจะได้ผอมลง
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
บทความชิ้นนี้เป็นแนวทางคร่าวๆในการดูแลสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ถ้ารักพวกเขาจริงๆต้องพาเขาไปหาหมอนะครับ

ภาพจากแฟ้ม

อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: พนักงานเสิร์ฟถ่มน้ำลายใส่น้ำอัดลมของลูกค้าดิ้นไม่หลุดเพราะดีเอ็นเอ

พนักงานเสิร์ฟถ่มน้ำลายใส่น้ำอัดลมของลูกค้าเพราะถูกต่อว่า ดิ้นไม่หลุดเพราะดีเอ็นเอ


รูปจากแฟ้ม(รูปแทน)


สามีภรรยาคู่หนึ่งออกไปทานอาหารที่ร้านโปรดแล้วเจอดีในเครื่องดื่มที่พวกเขาสั่งกลับบ้าน


เคนกับจูลี่ เยียร์ดอนไปดินเนอร์ที่ร้านโปรดในนิวยอร์ก พวกเขาไม่พอใจเมื่อเห็นไก่กับบล็อคโคลี่ที่สั่งมากิน



“บล็อกโคลี่ไม่สุก เกือบจะดิบเลยก็ว่าได้ ฉันเลยถามว่าช่วยเอาไปทำให้สุกอีกนิดจะได้มั้ย” จูลี่บอก

นี่เป็นคำขอที่ไม่ได้แปลกนัก แต่ไม่รู้เพราะอะไร พนักงานเสิร์ฟหงุดหงิด เคนจึงถามเขาว่ามีอะไรหรือเปล่า พนักงานเสิร์ฟตอบว่าไม่มี

พออิ่มหนำสำราญแล้ว ทอมจ่ายตังค์และสั่งเครื่องดื่มใส่แก้วกลับบ้าน เมื่อเขาเอาแก้ววางไว้ในที่วางแก้วในรถ ฝาแก้วก็หลุดออกมา ตอนนั้นแหละที่เขาเห็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด

“ผมบอกกับภรรยาว่า มีอะไรก็ไม่รู้อยู่ในแก้ว เห็นแล้วจะอ้วก” เคนบอกกับผู้สื่อข่าว

บนขอบแก้วมีน้ำลายผสมเสมหะติดอยู่ เขาจึงถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐาน

“กระเพาะผมปั่นป่วน ผมปรี๊ดเลยล่ะ มันน่าเกียจมาก” เคนบอก 

เขากลับเข้าไปในร้านและเผชิญหน้ากับพนักงานเสิร์ฟ “ผมถามว่า ทำไมนายถึงได้ถ่มน้ำลายใส่แก้วฉัน'”เขาตอบว่า “ผมไม่ได้ทำ” เคนเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

สิ่งที่เห็นในแก้วทำให้เขาโมโหมาก เขามั่นใจว่าเป็นฝีมือของพนักงานเสิร์ฟคนนี้ จึงไปแจ้งตำรวจ

ตำรวจนิวยอร์กถือว่าการกระทำเช่นนี้น่าจะผิดกฎหมาย จึงสอบปากคำพนักงานเสิร์ฟซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า เกรกอรี่ ลามีก้า แต่พนักงานเสิร์ฟปฏิเสธว่าไม่ได้ถ่ม

เมื่อไม่มีทางออก พวกเขาจึงขอให้พนักงานเสิร์ฟตรวจดีเอ็นเอ


สามเดือนหลังจากนั้น ผลตรวจจากห้องแล็ปของรัฐก็ออกมา ปรากฏว่าน้ำลายของพนักงานเสิร์ฟและน้ำลายในแก้วตรงกัน                                                                                      


ตำรวจตามไปจับพนักงานเสิร์ฟคนนั้นได้ที่หน้าบ้าน พวกเขาถามว่าเขารู้สึกผิดที่ถ่มน้ำลายลงไปในแก้วหรือไม่ พนักงานเสิร์ฟตอบว่า “ผมไม่เคยถ่มน้ำลายใส่แก้วของใคร” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว

ตอนนี้ พนักงานเสิร์ฟไม่ได้ทำงานที่ร้านอาหารแห่งนั้นแล้ว เขาถูกตั้งข้อหามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและถูกปรับ 125 เหรียญ

รูปจากแฟ้ม


อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่



วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก : ว๊าว...หนุ่มส่งรูปสยิวไปให้บริษัทที่สัมภาษณ์งานเอาไว้

หนุ่มวัย 23 จากเมืองออโรร่า อิลลินอยส์ ตามเรื่องหลังผ่านการสัมภาษณ์งานด้วยวิธีที่สุดแสนพิศดาร

ตำรวจเมืองเอ็มเฮิร์ทรายงานว่า เมื่อสามเดือนที่แล้ว หลังจากชายคนหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ไปสมัครงานกับบริษัทแห่งหนึ่งในเซ็นต์ ชาร์ลและผ่านการประกวดรอบแรกไปแล้วอย่างสบายปรื๋อ สะดือโบ๋ เขาส่งรูปเปลือยของตัวเองไปให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลสองครั้ง คือในวันที่ 11 และวันที่ 13 กรกฎาคมตามลำดับ

ผู้จัดการสาว (ขอสงวนนามและอายุ)เมินเฉย ต่อมา เมื่อชายคนนี้โทรเข้าไปถามว่าเขาจะต้องทำอย่างไรต่อไป ผู้จัดการจำหมายเลขผู้สมัครของเขาได้จึงแจ้งตำรวจว่าเขาส่งข้อความและรูปลามกอนาจารมาให้เธอ

“เขาส่งข้อความและรูปเปลือยของเขาเองมาให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคล” ไมเคิล รัช จากโรงพักเอ็มเฮิร์ทกล่าว “ตามที่ผมเข้าใจ พวกเขาไม่จ้างเขาเข้าทำงานแล้ว”

ชายคนดังกล่าวอธิบายว่าเขาตั้งใจส่งรูปเซลฟี่เปลือยของตัวเองไปให้คนอื่นดู

หินตา หาดละไม สมุย
 รูปจากแฟ้ม

ยังดีที่ผู้จัดการไม่เอาเรื่อง ไม่งั้นมีหวังติดคุกเล่นๆแน่

เมื่อปีทีแล้ว ชายชาวดัลลัสก็ส่งรูปช้างน้อยไปให้ฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่เขาส่งเป็นเอกสารแนบไปกับจดหมายสมัครงาน

ทิป: ที่มาของหินตาหินยาว - มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่ามีตายายคู่หนึ่ง ชื่อตาแครงกับยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งคู่ตกลงกับตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าจะให้ลูกชายแต่งงานกับลูกสาวของตาม่องล่าย พอถึงฤกษ์งามยามดี ตากับยายจึงเอาสินสอดทองหมั้นขึ้นเรือใบ เพื่อไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย แต่ระหว่างทางเกิดพายุใหญ่ ทำให้เรือล่ม ตายายทั้งสองเสียชีวิต โดนคลื่นซัดมาถึงหาด เกิดกลายเป็นหินตาหินยาย (บางตำนานก็ว่ามีญาติพี่น้องขึ้นเรือไปด้วยหลายคน ทุกคนเสียชีวิตแล้วกลายเป็นเกาะ เช่นเกาะกงคือนายคงลูกชายตาแครง เกาะปราบก็คือนายปราบ เพื่อนของนายคง ส่วนตากับยายพายุพัดมาบนเกาะสมุย แต่ทั้งสองเสียใจ กลัวว่าตาม่องลายจะคิดว่าพวกตนไม่รักษาคำพูด จึงกระโดดทะเลตาย กลายเป็นหินตาหินยาย)

รูปจากแฟ้ม: หินตา หาดละไม เกาะสมุย


อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก:อึ้ง! หญิงชาวจีนหลับเพลิน ปล่อยให้ตะขาบเลื้อยเข้าหู

ตัวอะไรอยู่ในรูหู

ตะขาบหัวแดง colopendra subspinipes mutilans
Photo credit: Wikimedia Commons

(รูปแทน)


ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆไปแล้ว เพราะเมื่อเร็วๆนี้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องเอาสัตว์เลื้อยคลานออกจากรูหู

สัตว์เลื้อยคลานนั้นคืออะไร? สัตว์เลื้อยคลานนั้นไซร้คือตะขาบน้อยธรรมดา

ข่าวรายงานว่าตะขาบตัวนี้คงเลื้อยเข้าในหูของเธอแล้วขดอยู่ในนั้นตอนเธอหลับ มันทำตัวตามสบายเหมือนอยู่กับบ้านตอนเธอกำลังหลับสนิท แต่มันคงสบายเกินไปจึงอยากกระดุกกระดิกบ้าง

หมอในเมืองจีนถูกเรียกให้มาผ่าตัด เอาเจ้าสัตว์ตัวนั้นออกมา อย่างด่วน

เจ้าสัตว์ตัวเล็กวิ่งเล่นอยู่ในหูของเธอเหมือนรถไต่ถัง มันออกมาแพ๊พนึ่งเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ผลุบกลับลงไปใหม่

หมอพยายามเอาคีมดึงมัน แต่ไม่ได้ผล สุดท้าย หมอต้องใช้ไม้ตาย เอาน้ำเกลือหยอดเข้าไปเด็ดชีพมันก่อนที่จะเอามันออกมา

โชคดีที่หญิงคนนี้มีบาดแผลในรูหูนิดเดียวเท่านั้น

ทิป: ตะขาบหัวแดงของจีน (Chinese red-headed centipede  หรือ Scolopendra subspinipes mutilans)เป็นตะขาบที่พบในเอเซียตะวันออกและออสเตรเลเซีย(ออสเตรเลีย+เอเซีย) มันมีความยาวเฉลี่ย ๒๐ เซ็นต์และอาศัยอยู่ในที่ชื้นแฉะ (บ้านเราเรียกว่าตะขาบอะไรก็ไม่รู้นะครับ)

คนจีนโบราณเชื่อว่าตะขาบหัวแดงสามารถใช้รักษาโรค ถ้าเอามันไปวางไว้ตรงที่เป็นผื่นคันหรือเป็นโรคผิวหนังอื่นๆ จะทำให้หายเร็ว (อย่าทำโดยพลการ โปรดปรึกษาผู้รู้ก่อน)

มาทางฟากออสเตรเลียบ้าง นักวิทยาศาสตร์ที่นั่นพบว่าพิษของตะขาบหัวแดงมีสารชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถขจัดความเจ็บปวดได้เช่นเดียวกับมอร์ฟีน โดยพวกเขาได้ทำการทดลองกับหนูมาแล้ว

ในการวิจัย นักวิจัยเอาหนูมาฉีดโมเลกุลที่สกัดมาจากพิษของตะขาบหัวแดง หนูจะแสดงอาการเจ็บปวดน้อยลงเมื่อเจอกับความร้อน กับกรดและกับยาแปลกๆที่ฉีดให้มัน

หมายเหตุ: ตะขาบมีหลายชนิด บทความข้างต้นเป็นคุณสมบัติของตะขาบหัวแดงเท่านั้น ตะขาบชนิดอื่นอาจไม่มีคุณสมบัติเช่นนี้ นอกจากนั้น ตะขาบทุกชนิดก็มีพิษ กัดเจ็บทุกตัวนะจ๊ะ

ขอขอบคุณภาพจาก:Yasunori Koide (own work)via.Wikipedia                             

อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่




วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: อดีตแม่ยายจ้างอดีตลูกเขยให้ไปฆ่ากิ๊กใหม่ของลูกสาว

แม่ยายชาวฟลอริดาถูกตั้งข้อหาว่าจ้างวานฆ่า เธอจ้างมือทุบให้ไปสังหารแฟนหนุ่มของลูกสาวหลังจากเขาพา หลานของเธอไปติดเหา???



Body Lice / Photo credit: PHIL/CDC

พาเมล่า วานอร์เดล อายุ 50 เจอข้อหาจ้างวานอดีตลูกเขยให้ไป 'ทำร้าย' เหยื่อวัย 22 ” ตำรวจโรงพักนิว ไซมา บีซ ระบุ

เหยื่อรายนี้ชื่อดีแลน เลิฟเลส เป็นคนร่อนเร่ พักอยู่ในแคมป์ของคนไร้ที่อยู่อาศัย

อดีตลูกเขยของวานอร์เดลเอาแผนการการฆาตกรรมไปบอกตำรวจ ตำรวจจึงไปจับเธอข้อหาพยายามจ้างวานฆ่า

พยานบอกว่าเธอมีปืนเถื่อนขนาด .25 พร้อมกระสุน – ตำรวจแถลง

พยานบอกต่อไปวาวานอร์เดล อยากฆ่าดีแลน เลิฟเลส เพราะเขามีความสัมพันธ์กับลูกสาวของเธอแต่เธอต้องการให้ความสัมพันธ์นี้สิ้นสุดลง แต่สิ่งที่วานอร์เดลโมโหสุดๆก็คือการที่ลูกสาวของเธอ ’พาพวกเด็กๆไปเที่ยวแถวแคมป์ของคนไร้ที่อยู่อาศัยของเขา เพราะพวกเด็กๆกลับมาพร้อมกับเหา’ – เอกสารประกอบสำนวนการฟ้องระบุ (ในที่นี้ไมู่้ว่าติดเหาหรือไร เพราะต้นฉบับใช้คำว่า lice คำเดียว )

พอถูกจับ วานอร์เดลให้การว่า เธอกะว่าจะเอาศพของเหยื่อไปโยนทิ้งสะพาน หรือไม่ก็จะไปทิ้งไว้ใน  เซาว์ คาโรไลนา  

เธอยอมรับว่าเคยพูดกับอดีตลูกเขยเรื่องฆ่าเลิฟเลส แต่เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะไปทำเช่นนั้นจริงๆ

วานอร์เดลต้องไปขึ้นศาลเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา โดยไม่มีทนาย

ทิป: เหา ไร โลน คือแมลงปรสิตตัวเล็กๆ ที่อยู่บนคนและสัตว์ มันกินเลือดเป็นอาหาร พบได้บนหัว บนตัว ในที่ลับ เนื่องจากมันอยู่ต่างที่กันและเป็นคนละชนิดกัน มันจึงมีชื่อไม่เหมือนกันคือ
   
      ๑. เหา head lice (Pediculus humanus capitis) ๒.ไร body lice (Pediculus humanus corporis) ๓. โลน public lice (Pthirus pubis)

แมลงปรสิตทั้งสามชนิดนี้มี ไร (body lice) เท่านั้นที่รู้กันว่าสามารถแพร่เชื้อโรคมาสู่มนุษย์ มันอยู่ตามเสื้อผ้า ที่นอน ฯลฯ และสามารถเป็นสาเหตุของไข้รากสาด เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคนี้คือเชื้อในกลุ่มริกเก็ตเชีย  (หมายเหตุ : เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก)

พาหะเหล่านี้จะเติบโตได้ดีในสถานที่ๆมีสุขลักษณะไม่ดี เช่นในเรือนจำ ค่ายกักกัน ในหมู่คนไร้บ้าน

หมายเหตุ: สาเหตุที่เอาทิปเรื่องนี้มาให้อ่านเพราะข่าวไม่ได้บอกว่าหลานสาวของผู้ต้องหารายนี้ติดเหา ไร หรือโลน ทำไมเธอถึงได้โมโหนัก

ขอขอบคุณภาพจาก Public Health Image Library(PHIL)/CDC

อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่