วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อาชญากรสมองใสปลอมทุกอย่างจนได้ประกันตัวออกจากคุก

อาชญากรสมองใสปลอมทุกอย่างจนได้ประกันตัวออกจากคุก



ผู้ต้องหาชื่อดังชาวอินเดีย – ที่เพิ่งถูกจับด้วยข้อหาปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกง – ใช้วิธีที่พวกเขาถนัดที่สุดประกันตัวออกไป และวิธีการนั้นก็คือการปลอมเอกสารที่มีลายเซ็นของตำรวจและนายประกันที่ไม่มีตัวตน

โมฮัมมัด ลุกค์แมน ชาอิค อายุ 48 และบาสเชีย มูลล่า อายุ 62 มีประวัติอาชญากรรมติดตัวยาวเป็นหางว่าว พวกเขาถูกจับเข้าซังเตเมื่อประมาณเดือนกว่าๆที่แล้วด้วยข้อหาปลอมพาสปอร์ตและเอกสารทางราชการอื่นๆ

ผู้ต้องขังทั้งสองมีชื่อเสียงในการปลอมแปลงเอกสารมาก พวกเขามีประวัติในการทำเอกสารปลอมและการตบตาตำรวจจนถึงขั้นที่ - ศาลต้องเตือนตำรวจให้ตรวจเช็คเอกสารต่างๆก่อนนำมายื่นให้ศาลในระหว่างการพิจารณาคดี

แต่ถึงขนาดเตือนกันแล้ว ชาอิดกับมูลล่าก็ยังใช้ความช่ำชองของตัวเองทำให้พวกเขาได้ประกันตัว แล้วตอนนี้ก็หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว

ว่าที่จริงผู้ต้องขังทั้งสองหนีออกมาจากเรือนจำตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ตำรวจเพิ่งรู้เรื่องเมื่อสามสี่วันที่ผ่านมาเมื่อวิชัย สนับ ตำรวจประจำโรงพักศรีนาคาร์พบพิรุธในเอกสารการปล่อยตัว

“ผมต้องตรวจสอบบันทึกของผู้ต้องขังที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัว ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆในโรงพักและตรวจสอบวันเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดี ผมรู้ว่าเมื่อเดือนที่แล้ว ศาลอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องขังทั้งสอง แต่เราจะปล่อยตัวพวกเขาไม่ได้เพราะยังตรวจสอบรายละเอียดของนายประกันไม่เสร็จ เรามีกระบวนการในการพิสูจน์พยานหลักฐานต่างๆ และเมื่อตรวจสอบเสร็จ จึงจะปล่อยผู้ต้องขังได้ สำหรับผู้ต้องขังทั้งสองคนนี้ ศาลอนุญาตให้ประกันตัวในวันที่ 20 กรกฎาคม แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีบันทึกอะไรเพิ่มเติมอีกเลย”

แล้วเมื่อสามสี่วันที่แล้ว วิชัยก็เจอเอกสารชิ้นหนึ่งซึ่งระบุว่าผู้ต้องขังทั้งสองถูกปล่อยตัวไปแล้ว เอกสารชิ้นนี้คนที่ชงเรื่องให้ปล่อยตัวคือตำรวจชื่อ อาร์เอส ปาทิน มีสารวัตรใหญ่คาอัคราของโรงพักศรีนาคาร์ เป็นคนอนุมัติ

“ผมประจำอยู่ที่โรงพักศรีนาคาร์ ผมรู้ว่าไม่มีตำรวจชื่อปาทินที่นี่ และสารวัติใหญ่ก็ไม่ได้ชื่อนี้ ผมถามคนในโรงพักก็เลยรู้ว่าคำสั่งให้ตรวจสอบคำสั่งศาลยังมาไม่ถึงพวกเขา พวกเขาจึงยังไม่ได้อนุมัติให้ปล่อยตัวผู้ต้องขัง พวกเขาไม่รู้เลยว่าผู้ต้องขังถูกปล่อยตัวไปแล้ว

เมื่อเขาขอให้ตำรวจตรวจสอบเอกสารทั้งหมดที่ทนายของผู้ต้องขังเอามายื่นขอประกันตัวผู้ต้องขัง ก็พบว่านายประกันชื่อซานโต๊ส ดองเกร และ ศักราราม กูเด ก็ไม่มีตัวตนเช่นเดียวกับปาทินและสารวัตรใหญ่ซึ่งอนุมัติเอกสารการปล่อยตัว นอกจากนั้นผู้ต้องขังก็ยังปลอมตราประทับของตำรวจอีกด้วย

พอรู้ดังนี้ ตำรวจจึงควานหาทนายคนนี้แล้วก็ไม่น่าแปลกใจที่หาทนายชื่อนี้ไม่เจอ ดังนั้นจึงน่าจะเป็นชื่อของทนายเป็นชื่อปลอมเหมือนกับเอกสารทั้งหมด

ตำรวจสงสัยว่าจะมีคนในศาลให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังทั้งสองเพื่อทำให้เอกสารการปล่อยตัวรอดสายตาของตำรวจ ขณะนี้การสอบสวนกำลังดำเนินต่อไป

อ่านจบแล้ว อย่าคิดว่ากำลังดูหนังฮอลลีวู๊ดนะนายจ๋า

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

แบ็กแพ็กสำหรับเก็บตด – วิธีแก้โลกร้อน

แบ็กแพ็กสำหรับเก็บตดวัว – วิธีแก้โลกร้อน

รูปแทน


กระเป๋าแบ็กแพ็กสำหรับเก็บตดของวัวฟังดูติ๊งต๊อง แต่มันอาจมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวง

“ตดวัวตดควาย” ถ้าพูดคำนี้ออกมาดังๆ คนฟังอาจจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ แต่ในความเป็นจริง ตดมีส่วนเป็นอย่างมากที่ทำให้โลกร้อนและเป็นอันตรายต่อตัวเรา

ตดวัวตดควายก็เหมือนกับตดอื่นๆมันประกอบด้วยแก๊สมีเทน ซึ่งเมื่อกระจายเข้าไปในอากาศ ก็มีส่วนทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก

ในสหรัฐ การที่คนชอบกินสเต็ก กินเบอร์เกอร์ กินชีส ทำให้มีการเลี้ยงสัตว์กันมาก ปริมาณแก็สมีเทนที่สัตว์เลี้ยงในฟาร์ม – เช่นวัว – ปล่อยออกมาคิดเป็น 22 เปอร์เซ็นต์ของแก็สมีเทนทั้งหมด

เมื่อไม่นานมานี้ คณะที่ปรึกษาทางการเกษตรสากลคณะหนึ่งได้เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่ง รายงานฉบับนี้เร่งรัดให้ผู้ที่ประกอบการเลี้ยงสัตว์ลดปริมาณการปล่อยแก็สมีเทนลง - ถ้าคิดจะบรรลุเป้าหมายในการควบคุมอุณหภูมิของโลกตามที่องค์การสหประชาชาติตั้งเป้าเอาไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

แต่การมีวัว 1.3 ถึง 1.5 พันล้านตัว (ไม่นับควาย) จึงต้องใช้วีธีที่ชาญฉลาดจริงๆเพื่อลดการแก็สเหม็นๆเช่นนี้

แต่กลายเป็นว่า อาร์เจนตินาอาจจะพบวิธีที่จะช่วยมวลมนุษย์แล้ว

มีรายงานว่ามีเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ชาวอเจนติน่าสองสามคนเอาแบ็กแพ็กไฮเทคไปวางบนหลังของวัวของพวกเขา แบ็กแพ็กนี้จะเอาแก็สที่วัวตดออกมาทั้งวันมาเก็บเอาไว้ มันเป็นแบ็กแพ็กที่เก็บตดได้ดี ใบหนึ่งสามารถเก็บแก็สมีเทนจากวัวได้มากถึงวันละ 300 ลิตรเลยทีเดียว

(กระเป๋าแบ็กแพ็กที่ว่าก็คล้ายกับกระเป๋าสะพายหลังของคน บรรยายอย่างคร่าวๆก็คือ มันเป็นกระเป๋าแบบมีรายรัดหน้าอกและเอวของวัวจากนั้นก็ต่อท่อพลาสติก ตรงปลายเป็นกรวย มีรูเอาไว้เอาหางเสียบ – ผุ้แปล)

แต่เอ๊ะ พอเก็บมาแล้ว จะเอาตดเหล่านี้ไปทำอะไร?

ช่างเทคนิคซึ่งดูแลโปรเจ็คนี้คนหนึ่งกล่าวว่าเราสามารถเอาแก็สไปเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวภาพกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ เขาจึงคำนวณให้ฟังว่า: แก็ส 300 ลิตรจากวัวสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานใช้กับตู้เย็นได้หนึ่งวัน

นอกจากนั้นก็มีวิธีการแบบกันเอาไว้ดีกว่าแก้ – ซึ่งเป็นการลดแก็สตั้งแต่ต้นตอ (ลดแก๊สในกระเพาะ)  – วิธีการนี้ ดูเหมือนบริษัทดาโนเนเคยลองเอามาใช้ โดยพวกเขาลองเอาโอเมก้า 3 มาใส่ในอาหารไดเอทเลี้ยงวัวของตัวเอง ในการนี้พวกเขาพบว่าวัวตดน้อยลง 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อเสียของอาหารชนิดนี้ก็คือมันลดปริมาณนมของวัวลงด้วยเช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมนัก

วิธีที่ดีที่สุดในการลดการแพร่กระจายของแก็สเรือนกระจกเป็นสิ่งที่แทบจะเห็นๆกันอยู่ วิธีการนั้นก็คือการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ให้น้อยลง (จะได้เลี้ยงน้อยลง) แต่ถ้าคุณจะเป็นจะตายถ้าไม่ได้กินเบอร์เกอร์รสละมุนเป็นครั้งคราว ก็ลองกินอาหารมังสวิรัตซึ่งรสชาติเหมือนกับเนื้อจริงๆดูบ้างก็ได้

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เมาได้ที่ หนุ่มตายในวันเกิด

หนุ่มดวงกุด ถูกรถทับจนเสียชีวิตในงานวันเกิดของตัวเอง


รูปแทน

หนุ่มใหญ่ไม่อยากให้เพื่อนกลับบ้าน เลยลงไปนอนขวางรถ แต่ถูกเพื่อนขับรถทับจนเสียชีวิต – เหตุเกิดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ในซาน ดิเอโก้

ตำรวจเปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุ โจนาธาน คาร์ไลล์ เมอร์กรีย์ จากเมืองการ์เด้น โกล์ว กำลังสนุกอยู่ในงานวันเกิดครบรอบอายุ 34 ของตัวเองอยู่ในโรงแรมสเตย์บริดจ์ สุท ในซอเรนโต้ วัลเลย์ พวกเขาทั้งดื่มทั้งกินกันอย่างสุดสวิงริงโก้

พอประมาณเที่ยงคืนครึ่ง เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งก็จะกลับบ้าน เธอออกไปสตาร์ทรถแล้วจะขับออกไป

ด้วยความเป็นห่วง ไม่อยากให้เพื่อนขับรถตอนเมา โจนาธานจึงลงนอนขวางรถที่กำลังแล่นออกไป
พยานที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าหญิงคนนั้นขับรถทับเขาแล้วขับต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โจนาธานมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณหน้าอก เขาถูกนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตเมื่อเวลาตีหนึ่งยี่สิบสองนาที

ขณะรายงานข่าวตำรวจกำลังสืบสวนหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น และหญิงคนขับยังไม่ถูกจับ

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ตีกันเละเพราะละคร

อินเกินขนาด


รูปแทน



ทะเลาะกันเพราะละครทีวีจนกลายเป็นการจลาจลย่อยๆ คนเป็นร้อยยกพวกเข้าตะลุมบอนกัน สุดท้ายบาดเจ็บสาหัสไป 15 เหตุเกิดในบังคลาเทศ

ชาวบ้านในหมู่บ้านฮาบิกดันมารวมตัวกันเพื่อดูละครจากอินเดียเรื่องคีรันมาลาในร้านขายกาแฟ

เผอิญมีหนุ่มสองคนเถียงกันเพราะมีความเห็นไม่ลงรอยกันเรื่องพล็อตของเรื่อง คนที่มาดูอยู่ด้วยจึงเลือกข้าง แล้วไม่นานคนเป็นร้อยก็คว้ามีด คว้าไม้เข้าตะลุมบอนกัน

ร้อนถึงตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุ พวกเขาใช้แก็สน้ำตาแลกระสุนยางเข้าสลายการจลาจล

คีรันมาลาเป็นละครแนวซายไฟ เป็นเรื่องราวของของเจ้าหญิงนักรบซึ่งปกป้องมนุษย์จากเหล่ามารร้าย มันเป็นละครที่ได้รับความนิยมมากในบังคลาเทศ

การจลาจลคราวนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านโดล ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงดักการ์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 176 กิโลเมตร

ตำรวจท้องถิ่นเปิดเผยว่า ”ชายสองคนทะเลาะกันเพราะละครตอนนั้น แล้วบานปลาย กลายเป็นการยกพวกตะลุมบอนกัน มีคนหลายร้อยคนใช้มีดและไม้เข้าทำร้ายกัน”

“ตำรวจต้องยิงกระสุนยางไปเก้านัดและใช้ระเบิดน้ำตาไปห้าลูกเพื่อควบคุมฝูงชน เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ต้องพาไปส่งโรงพยาบาลอย่างน้อย 15 คน

นอกจากนั้น ก็มีคนได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยอีกอย่างน้อย 100 คน การจลาจลคราวนี้เริ่มต้นในคืนวันพุธแล้วต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันพฤหัส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าถึงแม้คีรันมาลาจะเป็นละครจากฝั่งอินเดีย แต่สองสามปีที่ผ่านมา มันเป็นละครที่ฮิตที่สุดในบังคลาเทศ

เมื่อปีที่แล้ว ข่าวท้องถิ่นรายงานว่าสาววัยรุ่นชาวบังคลาเทศสองคนเสียชีวิตเพราะละครเรื่องนี้ พวกเธอฆ่าตัวตายเพราะผู้ปกครองไม่ยอมซื้อชุดเจ้าหญิงแบบในละครให้พวกเธอ”

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ถึงคราวซวย หนุ่มกลายเป็นขันทีเพราะขับรถซิ่ง

หำหาย




“ลูกรักของผมหลุดผัวะออกมา” นักโทษหนุ่มถูกกิ่งไม้กระซวกถุงอัณฑะขาดกระจุยในอุบัติเหตุทางรถยนต์ - สยอง

นักโทษขับรถซิ่งไปประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นขันทีเมื่อกิ่งไม้ทะลุกระจกหน้าเข้ามากระซวกพุงกะทิ

นิโคลัส เซ็นท์ แคลร์ หนุ่มวัย 27 ปีจากเมืองฮูลล์ – เขาเป็นนักโทษที่ถูกศาลตัดสินว่าทำผิดจริงแต่ได้รับการประกันตัวออกมา - ขับรถเร็ว 97 กม/ชม. (เร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดสองเท่า) เพราะรีบไปพบเจ้าหน้าที่ จะได้ไม่ผิดเงื่อนไขในการประกันตัว

ระหว่างทาง เขาชนกับรถฟอร์ด มอนดีโอในหมู่บ้านเซาท์ เฟอร์รีบาย์ เมืองลินคอนชาย รถที่เขาขับคือรถโฟล์ก กอลฟ์

ต่อจากนั้น ในขณะที่เขากำลังแซงรถคันหนึ่ง เขาก็ชนกับรถอีกคันหนึ่งซึ่งขับสวนมา พยานที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าเขาขับ ”เหมือนอยู่ในสนามแข่งฟอร์มูล่า วัน”

ตอนชนกับรถคันที่สอง เขาควบคุมรถไม่ได้และพุ่งชนกับเสาไฟแสงจันทร์ข้างทาง ตรงนั้นเองที่กิ่งไม้ทะลุกระจกหน้ารถเข้ามาโดนถุงอัณฑะของเขาเต็มๆ

“พอผมดึงกิ่งไม้ออกไป ลูกรักทั้งสองลูกก็ไหลผัวะออกมา”  นิโคลัสให้การกับตำรวจก่อนหมดสติและถูกนำไปส่งโรงพยาบาล

ตอนนี้นิโคลัสหมดสิทธิ์มีลูกมีหลานและไม่สามารถมีเซ็กส์ได้อย่างรื่นรมย์สมอุราอีกแล้ว

อัยการเมืองลินคอนชาย กล่าวว่ารถชนแรงจนเสาไฟฟ้าหัก แล้วรถของนิโคลัสก็พลิกหงายท้อง เขายังเสริมต่อไปว่านิโคลัสหน้าผากแตก ต้องเย็บยี่สิบเข็ม ฟันหักและเลือดออกมากที่บริเวณท้องน้อย

นิโคลัสถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาสามปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วยข้อหาขู่กรรโชกเพื่อนเพื่อทวงหนี้เป็นเงิน 3000 ปอนด์ แต่เขาถูกปล่อยตัวออกมา โดยให้ไปอยู่ในเบล ฮอสทอล (Bail Hostel) ในเมือง     สคันทอร์ป โดยเขาต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน

Bail Hostel/ Probation Hostel คือที่พักเล็กๆราคาถูกที่รัฐบาลให้ผู้กระทำความผิดไปอยู่ แทนที่จะถูกกักขังในเรือนจำ ที่พักเช่นนี้จะรับผู้กระทำความผิดแห่งละสองสามคน และจะตั้งอยู่ในชุมชน ซึ่งบางครั้งก็ถูกต่อต้านจากคนในชุมชนนั้นๆ ที่พักเหล่านี้มีเป็นร้อยในอังกฤษและเวลล์ ผู้บริหารของที่พักมักจะเป็นองค์กรการกุศลหรือเจ้าหน้าที่ควบคุมความประพฤติ (ตามหลักของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ คือการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดโดยการไม่ควบคุมตัว)

อัยการเปิดเผยว่า นิโคลัสมีคดีติดตัว 24 คดี หนึ่งในนั้นเป็นคดีค้ายาเสพติด และถูกตัดสินว่ามีความผิดไปแล้ว 9 คดี

ทนายของนิโคลัส ซึ่งเป็นทนายผู้หญิง กล่าวในศาลว่าลูกความของเธอเสียใจที่ทำให้คนที่มากับเขาและคนที่ใช้รถใช้ถนนอื่นๆในตอนนั้น ตกใจกลัวและได้รับบาดเจ็บ จากนั้น เธอก็กล่าวต่อว่าพัสดีเห็นว่าเขาประพฤติตัวดีขึ้นมากแล้วเขาก็เคยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเห็นนักโทษถูกซ้อมอย่างรุนแรงในคุกเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วอีกด้วย

เมื่อฟังคำให้การแล้ว ผู้พิพากษากล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่แค่น่าเศร้า แต่มันเป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ผมเคยเห็นรถชนกันที่รุนแรงน้อยกว่านี้ซึ่งทำให้คนเสียชีวิตมาแล้ว

ข่าวไม่ได้บอกว่าศาลตัดสินหรือยัง

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สลด! ตายเพราะชักว่าว

ข่าวร้ายสำหรับคนที่ชอบชักว่าวหรือดูว่าว





เชือกสำหรับชักว่าวปาดคอคนตายไปแล้วสามศพ – เหตุเกิดในอินเดีย

มีกิจกรรมมากมายในฤดูเล่นว่าว หนึ่งในนั้นก็คือการชักว่าวสู้กัน คนแข่งจะชักว่าวขึ้นไป แล้วเอาเชือกว่าวตัดกัน ว่าวใครขาดคนนั้นแพ้

เด็กสองคนและชายคนหนึ่งเสียชีวิตในเมืองหลวงของอินเดียเพราะถูกเชือกที่เคลือบเศษแก้วซึ่งใช้เป็นเชือกว่าวปาดคอในงานวันฉลองวันประกาศอิสรภาพ (วันชาติ)ของอินเดีย

โศกนาฏกรรมเหล่านี้ทำให้รัฐบาลเดลีออกประกาศห้ามผลิต จำหน่ายหรือเก็บเอาไว้เพื่อจำหน่ายเชือกที่คมเหมือนใบมีดโกนซึ่งใช้ในการต่อสู้

รัฐบาลประกาศว่าคนที่มีเชือก – ซึ่งเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า แมนจา - จะถูกจำคุก 5 ปี ปรับอีก 100000 รูปี

เด็กสองคน คนหนึ่งอายุสี่ขวบ อีกคนอายุหกขวบเสียชีวิตต่างสถานที่และต่างเวลากันในกรุงนิวเดลี เพราะพวกเขาโผล่หัวออกมาจากซันรู๊ฟของรถยนต์

“เด็กทั้งสองคนถูกเชือกคมๆปาดคอขณะออกมาดูว่าวทางช่องซันรู๊ฟบนหลังคาของรถยนต์” ตำรวจเขต เวสท์ เดลีเปิดเผย

“ชายวัย  22 ปีอีกคนหนึ่งก็เสียชีวิตในลักษณะคล้ายๆกัน เขาถูกเชือกปาดคอขณะขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บนสะพานลอยในเมือง” ตำรวจอีกคนกล่าว

เหตุการณ์เสียชีวิตทั้งสามราย ตำรวจจับมือใครดมไม่ได้

นอกจากนั้นก็ยังมีรายงานข่าวว่ามีเด็กอายุห้าขวบอีกคนหนึ่งและตำรวจอีกนายหนึ่งบาดเจ็บสาหัสเพราะเชือกเคลือบแก้วด้วยเช่นกัน

การเล่นว่าวเป็นกิจกรรมที่ชื่นชอบกันมาก ในงานฉลองวันชาติ บนท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยว่าว และว่าวที่ขาดไม่ได้ก็คือว่าวธงชาติ

ศาลสูงของอินเดียแนะให้ผู้ว่าการกรุงนิวเดลีเตือนให้คนเห็นอันตรายของเชือกดังกล่าวให้มากขึ้น โดยกล่าวว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีคนเสียชีวิตในกรุงเดลีและรัฐใกล้เคียงอีกสองรัฐเป็นจำนวนมาก

เพราะเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ รัฐบางรัฐในอินเดียจึงห้ามใช้เชือกชนิดนี้แล้ว

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ควันหลงจากการแข่งขันกีฬามวยปล้ำในโอลิมปิก รีโอ 2016

ควันหลงจากการแข่งมวยปล้ำในโอลิมปิก รีโอ 2016 





ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2016 โค้ชมวยปล้ำของมองโกเลียแก้ผ้าประท้วงที่นักกีฬาของตนแพ้

ในการแข่งขันมวยปล้ำรุ่น 65 กิโลกรัมที่สนามคาริโอน่า  โค้ชสองคนของนักกีฬามวยปล้ำชาวมองโกเลียถอดเสื้อผ้าประท้วงหลังจากนักกีฬามวยปล้ำของตนชวดเหรียญทองแดง

ในการแข่งขันดังกล่าว  เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง(แต่ยังไม่ได้ประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการ) โค้ชทั้งสองก็วิ่งขึ้นไปบนเวทีเพื่อแสดงความยินดีกับกังโซริจิอิน มันดานารันเพราะเชื่อว่ามันดานารันชนะอิตียอร์ นารูซ็อว์นักกีฬาจากอุซเบกิสถาน

โค้ชคนหนึ่งของมองโกเลียถึงกับทรุดลงนั่งคุกเข่าและสะอึกสะอื้นด้วยความตื้นตันใจ

แต่คณะผู้ตัดสินตัดสินตัดคะแนนนักกีฬาจากมองโกเลีย และให้นักกีฬาจากอุซเบกิสถานชนะ

(ข่าวบางสำนักรายงานว่าเมื่อหมดเวลา มันดานารันมีคะแนนดิบนำอยู่ที่ 7-6 คะแนน แต่เขาถูกตัดหนึ่งคะแนนเพราะเอาแต่ถอยหนี ไม่เข้าปล้ำกับคู่ต่อสู้ในช่วงสุดท้าย และถูกหักอีกหนึ่งคะแนนเพราะโค้ชขอชาเลนจ์แต่ไม่เป็นผล ทำให้นักกีฬาจากอุซเบกิสถานชนะไป 8 - 7)

สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันทำให้โค้ชของมองโกเลียควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ โค้ชคนหนึ่งถอดเสื้อและแสดงอาการฮึดฮัดไม่พอใจที่หน้าโต๊ะของคณะกรรมการ โค้ชอีกคนถอดเสื้อและกางเกง เหลือกางเกงลิงตัวเดียว

“นี่เป็นการประท้วง” โค้ชคนหนึ่งกล่าว “เพราะมีปัญหาในการตัดสิน”

“คนสามล้านคนในมองโกเลียรอคอยเหรียญทองแดงเหรียญนี้ แต่ตอนนี้ เราชวดเหรียญ  คนที่มาดูอยู่ในสนามทุกคนเชียร์เรา”

โค้ชทั้งสองเอาเสื้อผ้ามาพับไว้บนโต๊ะกรรมการ ในขณะที่ผู้คนที่มาดูการแข่งขันตะโกนเข้าข้างมองโกเลียว่า “มองโก เลีย มองโกเลีย”

เจ้าหน้าฝ่ายจัดการแข่งขันเข้ามาห้ามปรามโค้ชทั้งสอง ในที่สุด พวกเขาก็ใส่เสื้อผ้า (ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งชาติบราซิลจะมาพาพวกเขาออกไปท่ามกลางเสียงเชียร์)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างเกิดเหตุ มันดานารัน นักมวยปล้ำจากมองโกเลียไม่ได้ถอดเสื้อผ้าประท้วงแต่อย่างใด

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หวุดหวิดจะเป็นศพเพราะไปหลับอยู่ในกองกระดาษ

เกือบจะกลายเป็น “ขยะรีไซเคิล” เพราะไปนอนอยู่ในกองขยะ


รูปแทน


วนิพกพเนจรไปนอนอยู่ในกองกระดาษถูก "อัด" จนเกือบจะกลายเป็นขยะรีไซเคิล

อีแวน โรสาลีโอ เมนเดส เปเรส – ซึ่งถูกเก็บมาจากข้างถนนพร้อมกับขยะอื่นๆ - รอดตายอย่างหวุดหวิดเพราะพนักงานเก็บขยะได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขาเสียก่อน

และนับว่าโชคดีที่เขาขาหักไปข้างเดียว

ขณะอยู่บนรถขยะ วนิพกวัย 23 คนนี้พยายามปากล่องกระดาษใส่ตัวรถ และพยายามตะโกนเพื่อให้คนชับหันมาดู

แต่ความพยายามของเขาไม่เป็นผล เขาจึงถูกเครื่องอัดขยะ "บีบไปหลายครั้ง"

เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจอัลบานีเปิดเผยว่า "คนชับมารู้ว่าเปเรสติดอยู่บนรถตอนที่กำลังจะอัดขยะเพราะผู้เคราะห์ร้ายโยนกล่องกระดาษออกมาจากรถ"

เมื่อคนขับลงมาดูและได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเปเรส เขาจึงติดต่อเรา “หน่วยดับเพลิง     ของอัลบานีก็มาช่วยเอาเขาออกมาอีกแรงหนึ่ง”

เปเรสถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลเพราะขาหักไปข้างหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้เขาปลอดภัยดีแล้ว

"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับถังขยะ" ผู้กำกับกล่าว

เมื่อห้าปีที่แล้ว ก็เคยมีคนพบกอร์กอน จีน เลมเก้ อายุ 50 ในกองกระดาษที่สถานีแยกขยะมาแล้ว
ตอนนั้นเลมเก้กำลังหลับสนิท

ผู้กำกับเสริมว่า "อย่าไปเล่นในถังขยะ ไม่ว่าจะไปเล่นหรือหาที่นอนเพราะคนขับรถเก็บขยะไม่มีทางรู้หรอกว่ามีคนอยุ่ตรงนั้น

(สัปดาห์ที่แล้วมีพายุแถวบ้าน เสาไฟฟ้าหักไป 20 - 30 ต้นและเน็ตล่ม เพิ่งใช้ได้เมื่อวันสองวันที่แล้ว ก็เลยทำให้ข่าวแปลกขาดหายไป)

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่


วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559

อุบัติเหตุของรถเทสล่าในจีน

อุบัติเหตุของรถเทสล่าในจีนทำให้คนจับตามองรถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง



อุบัติเหตุครั้งแรกของรถเทสล่าในประเทศจีนทำให้ทุกคนหันมาสนใจเทคโนโลยีรถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองมากขึ้น

ผู้ผลิตรถยนต์เทสล่าเปิดเผยว่ารถคันหนึ่งของพวกเขาประสบอุบัติเหตุในกรุงปักกิ่งในขณะที่กำลังใช้โหมด “ออโต้ ไพล็อต”

เหลา เฉิน - คนขับรถที่เกิดอุบัติเหตุ – กล่าวว่าเขาใช้ระบบออโต ไพล็อตเหมือนที่เคยใช้เป็นประจำเวลาขับอยู่บนไฮเวย์ในกรุงปักกิ่ง

รถของเหลาเฉี่ยวกับรถคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่บนถนน ทำให้กระจกมองข้างของรถคันนั้นเสียหายและรถทั้งสองคันมีรอยขีดข่วน

เหลากล่าวว่าฝ่ายขายของตัวแทนจำหน่ายรถขายระบบ “ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง” เพิ่มให้เขาเอง

เทสล่ากล่าวว่าพวกเขาได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วและคอนเฟิร์มว่าเหลากำลังขับอยู่ในโหมดออโต ไพล็อต – ระบบที่จะเข้าควบคุมการหมุนพวงมาลัยและการเบรกในบางสถานการณ์

บริษัท – ซึ่งเริ่มตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุคราวนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว -  กล่าวว่ามันเป็นหน้าที่ของคนขับที่จะต้องควบคุมรถ ในกรณีนี้  พวกเขาตรวจไม่พบว่ามือของคนขับจับอยู่บนพวงมาลัย

อุบัติเหตุของรถเทสล่าในคราวนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดอุบัติเหตุจนมีคนเสียชีวิตในฟลอริด้าไม่กี่เดือน  มันเพิ่มแรงกดดันให้กับผู้บริหารในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และทุกคนที่ดูแลกฎให้เข้มงวดกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนแบบไร้คนขับในรถยนต์มากขึ้น

(คงจำได้นะครับ รถยนต์เทสล่าเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่)

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เก็บตกจากกีฬาโอลิมปิกรีโอ 2016

ธงชาติจีนคลาดเคลื่อนในกีฬาโอลิมปิก รีโอ





ยังครับ มหกรรมกีฬาโอลิมปิกยังไม่จบ แต่มีเก็บตกมาฝาก

บริษัทในบราซิลผลิตธงชาติจีนใหม่เสร็จแล้ว และส่งไปยังมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเพื่อเอาไปใช้แทนธงเก่าที่มีความคลาดเคลื่อน

หลังจากคณะกรรมการโอลิมปิกของจีนทราบว่าธงชาติของตนที่คลาดเคลื่อนและถูกนำไปใช้ในพิธีมอบเหรียญหลายครั้งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก พวกเขาจึงร้องไปยังคณะกรรมการผู้จัดงานเพื่อให้แก้ไขข้อผิดพลาด คณะกรรมการผู้จัดงานเห็นพ้องว่าให้เปลี่ยนธงที่คลาดเคลื่อนมาใช้ธงที่ถูกต้องในการแข่งขันที่เหลือ - สถานทูตจีนในบราซิลเปิดเผย

บริษัทที่คณะกรรมการจัดงานได้มอบภารกิจในการผลิตธงชาติของประเทศผู้แข่งขันทั้งหมดตั้งอยู่ห่างจากเมืองเซา เปาโล 95 กิโลเมตร

เพื่อเร่งให้บริษัทผลิตธงที่ถูกต้องให้เร็วที่สุด สถานกงสุลจีนในเมืองเซา เปาโล จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลการผลิตถึงโรงงาน

หลังจากทำโอทีไป 30 ชั่วโมง บริษัทก็ผลิตธงชาติจีนเสร็จ – สี่ห้าวันก่อนกำหนด

ธงชาติใหม่ของจีนถูกส่งไปถึงเมืองริโอเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมและถูกส่งไปยังสนามการแข่งขันกีฬาต่างๆในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกทันที กระบวนการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของสถานทูตจีนในบราซิล

กงสุลใหญ่ของจีนที่ประจำอยู่ในเมืองรีโอ เดอจาเนโรกล่าวว่า “ผมหวังที่จะเห็นธงชาติของเราถูกชักขึ้นสู่เสาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และหวังจะได้เห็นนักกีฬาของเราประสบความสำเร็จต่อไป”

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม เมื่อมีคนจีนตาดีจำนวนหนึ่งออกมาตั้งข้อสังเกตว่าธงชาติที่ใช้ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก มีความคลาดเคลื่อน (ธงชาติจีนเป็นธงพิ้นสีแดง มีดาวดวงใหญ่หนึ่งดวง และมีดาวห้าแฉกดวงเล็กสี่ดวงอยู่ข้างๆ)

กล่าวคือ ปลายแหลมของแฉกของดาวดวงเล็กทั้งสี่ที่หันเข้าหาดาวดวงใหญ่ ( ในธงชาติที่ใช้ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก) ทำมุมขนานไปกับพื้น ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะดาวดวงเล็กทั้งสี่จะต้องเอียง ทำมุม ให้ปลายแหลมของแฉกชี้ไปที่จุดศูนย์กลางของดาวดวงใหญ่

ในการนี้คณะกรรมการจัดงานได้ขอโทษไปยังประเทศจีนแล้ว

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก:Wikimedia commons

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ขนาดล่ามโซ่ไว้กับต้นไม้ก็ยังไม่รอด

ขโมยใจกล้าขโมยจักรยานริมถนน





ขึ้นชื่อว่าหัวขโมย ถ้าจะขโมยอะไรสักอย่าง เป็นต้องขโมยให้ได้ ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริเวณริมถนนใหญ่ในนครฉางชา มณฑลฮูหนาน ประเทศจีนตอนตีห้ากว่าๆของเมื่อวานนี้ (ที่ 10 สิงหา)

เหตุการณ์สุดแสนพิสดารครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่หัวขโมยคนหนึ่ง ตัดต้นไม้ทั้งต้นเพื่อขโมยจักรยานที่เจ้าของล่ามโซ่เอาไว้ – ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้

คลิปจากกล้องแสดงให้เห็นหัวขโมยคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดใกล้ๆกับรถจักรยานที่มีโซ่ล่ามเอาไว้กับต้นไม้ (ดูแล้ว ต้นไม้ต้นนี้คงมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งฟุต สูงประมาณ 5 เมตร)

จากนั้นเขาก็ลงจากรถ แล้วเอาเลื่อยออกมาตัดต้นไม้ - เลื่อยก็เลื่อยธรรมดาๆนี่แหละ

ตัดไปได้ครู่หนึ่ง เขาก็กลับมาที่รถ ผ่านไปแวบหนึ่ง ก็มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นผ่านไป  - นั่นแสดงว่าเขาได้ยินเสียงของมอเตอร์ไซค์คันนั้นดังมาแต่ไกล จึงทำเนียน  กลับมาขี่รถ รอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พอมอเตอร์ไซค์คันนั้นลับตาไป เขาก็ลงมาตัดต้นไม้อีกครั้ง คราวนี้ เขาโค่นมันลงได้ในเวลาไม่กี่วินาที – อัศจรรย์ยิ่งนัก นี่มันต้นอะไร ทำไมถึงได้เนื้ออ่อนนัก แล้วเลื่อยที่เขาใช้ยี่ห้ออะไร ทำไมถึงได้คมเหลือเกิน

ทันทีที่ต้นไม้ล้ม เขายกจักรยานและโซ่ออกจากลำต้น เอาไปวางซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปอย่างหน้าตาเฉย

ข่าวซีซีทีวีที่เอาคลิปมาเผยแพร่ มีคำแนะนำไว้ว่า ”ควรจะคล้องจักรยานไว้กับวัตถุที่เป็นเหล็ก” ในขณะที่คนที่ดูข่าวจำนวนมากตกตะลึง พูดไม่ออก

ในขณะที่เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ยังไม่มีรายงานข่าวว่าตำรวจเข้าไปจัดการกับคดีนี้แล้วหรือไม่อย่างไร

เฮ้อ เสียดายโซ่

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ให้มันรู้บ้างว่าไผเป็นไผ ชายอายุ 90 แต่ยังฟิตปั๋ง

ถึงจะแก่แต่ก็ยังมีไฟอยู่




ชายวัยใกล้ฝั่งแจ้งตำรวจว่าถูกโสเภณีขโมยของ

แต่เขายอมรับว่าจ่ายเงินเป็นค่าบริการให้เธอ 100 เหรียญ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชายชาวแมสซาชูเสต อายุอานามปาเข้าไป 90 ถูกจับข้อหาซื้อบริการทางเพศจากโสเภณีหลังจากไปแจ้งความว่าถูกเธอขโมยสร้อยทอง

ตอนแรกตำรวจบอกนิโคลัส สาเลอร์โนว่า แจ้งข้อหาแบบนี้ เขาจะถูกจับข้อหาซื้อบริการของโสเภณีนะ นิโคลัสตอบว่า “ผมไม่สนหรอก ผมอายุตั้ง 90 แล้ว ให้มันรู้บ้างว่าไผเป็นไผ”

ในบันทึกประจำวันของตำรวจเมืองเดนนิส  ตำรวจได้รับแจ้งจากนิโคลัสเมื่อปลายเดือนมิถุนายน โดยนิโคลัสแจ้งว่าเขาจ่ายเงินให้คาเรน โปรอา อายุ 48 มาเดลิเวอรี่เรื่องยังว่าให้ที่บ้าน

นิโคลัสระบุว่าเขาได้ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของคาเรนมาจากเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนซึ่งไม่ประสงค์จะออกนามคนนี้บอกเขาว่า ”จ่ายเงินให้เธอร้อยเหรียญให้เธอทำออรัล เซ็กส์ให้” นอกจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็ยังบอกเขาด้วยว่า “เธอก็จะทำแบบนั้นให้เขาเหมือนกัน”

นิโคลัสจึงจ่ายเงินให้คาเรนร้อยเหรียญ

คาเรนเอาความสุขมามอบให้นิโคลัสที่บ้าน แล้วก็กลับไป แต่ไม่ไปมือเปล่า หยิบสร้อยคอทองคำที่เขาวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง ติดมือไปด้วย

นิโคลัสกล่าวว่าก่อนโทรแจ้งตำรวจ เขารอหนึ่งสัปดาห์ “เพราะอยากให้โอกาสเธอเอาสร้อยมาคืน”

พอตำรวจถามว่าเขารู้จักชื่อเต็มๆของคาเรนหรือไม่ นิโคลัสตอบว่า “ผมรู้แค่เบอร์โทรศัพท์ของเธอ และรู้ว่าเธออยู่ในอพาร์เมนต์ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านขายต้นคริสตมาสในเขตเวสท์ เดนนิส”

จากคำให้การของนิโคลัส ตำรวจจึงตามไปเจอสร้อยคอของเขาในร้านค้าทองและเหรียญแถวเวสท์ เดนนิส คนในร้านบอกตำรวจว่าคาเรนเอามันมาจำนำไว้เมื่อไม่นานมานี้ ตำรวจจึงตามไปจับคาเรนได้ในเวลาต่อมา

นิโคลัสและคาเรนถูกฟ้องข้อหาให้บริการและซื้อบริการทางเพศ พวกเขาถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อวันอังคารสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งคู่ไม่ยอมรับสารภาพ

จากบันทึกของศาล ศาลไม่รับฟ้องคดีที่ตำรวจฟ้องนิโคลัส จึงถือว่าคดีนี้ตกไป ส่วนคดีของคาเรนต้องไปว่ากันอีกทีในวันที่ 1 กันยายนที่จะถึง

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ทำไมถึงทำกับฉันได้ หนุ่มดัทซ์เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปหาแฟน สุดท้ายแห้ว

หนุ่มเมืองโคนมบินไปประเทศจีนเพื่อเจอกับแฟนออนไลน์เป็นครั้งแรกแต่สุดท้ายแห้ว 




เขารออยู่ในสนามบินนาน 10 วัน

หนุ่มเมืองโคนมหัวใจสลายและถูกหามส่งโรงพยาบาลหลังจากบินไปเมืองจีนตามนัดกับแฟนที่เจอกันในโลกออนไลน์แต่เธอไม่มาตามนัด

อเล็กซานเดอร์ ปีเตอร์ (นามสมมุติ) อายุ 41 หอบกระเป๋า กระโดดขึ้นเครื่องบินไปเมืองจีนเพื่อไปพบกับอาฉาง อายุ 26 – แฟนที่เจอกันในอินเตอร์เน็ต แต่เธอไม่มาตามนัด

แต่หนุ่มเมืองโคนมแสนโรแมนติกคนนี้ไม่ยอมทิ้งความหวัง เขาตัดสินใจรออยู่ในสนามบิน เขารอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ จนผ่านไป 10 วัน ก็ถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะความอ่อนเพลีย

เรื่องราวมากระจ่างในภายหลังว่าสาเหตุที่อาฉางไม่ตอบเมสเสจของอเล็กซานเดอร์เลยก็เพราะเธอไปผ่าตัดเสริมความงาม อยู่ต่างจังหวัด

อาฉางกล่าวว่า อเล็กซานเดอร์ส่งรูปตั๋วเครื่องบินของเขามาให้เธอดู แต่เธอคิดว่าเขาอำเธอเล่น

เธอบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “เมื่อต้นรักของเรางอกงาม เขาก็เริ่มใจดำกับฉัน”

“แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง เขาก็ส่งรูปตั๋วเครื่องบินมาให้ฉันดู ฉันก็เลยคิดว่าเขาล้อเล่น แล้วหลังจากนั้น เขาก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย”

เมื่ออเล็กซานเดอร์ไปถึงเมืองจีน เขาพยายามส่งเมสเสจ ระบายความรักไปหาอาฉาง แต่เธอไม่ตอบ - ต่อมาในภายหลังจึงทราบสาเหตุว่าตอนนั้นเธอกำลังไปผ่าตัดเสริมความงามอยู่ต่างจังหวัด

แต่เพราะไม่รู้ อเล็กซานเดอร์จึงรออยู่ในสนามบิน โดยหวังว่าเธอจะมาหา ผ่านไป 10 วัน เขาก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะความอ่อนเพลีย

หลังจากโรงพยาบาลปล่อยตัวออกมา อเล็กซานเดอร์ก็เดินทางกลับบ้าน หนังสือพิมพ์เอารูปในขณะที่เขานั่งอยู่บนรถเข็นและมีสายน้ำเกลือระโยงระยางตอนกำลังจะขึ้นเครื่องบินมาลงด้วย

แฟนทางอินเตอร์เน็ตของอเล็กซานเดอร์กล่าวว่า ถึงแม้จะไม่เจอกันเพราะความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน แต่เธอก็ยังจะสานสัมพันธ์รักกับเขาต่อไปและหวังจะได้เจอกับเขาเมื่อเขาแข็งแรงดีแล้ว

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่


วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

โรงเรียนในหลุยส์วิลล์สั่งห้ามไม่ให้เด็กไว้ผมเวอร์วัง

ทรงผมฟรุ้งฟริ้งต้องห้ามในโรงเรียนในหลุยส์วิลล์


รูปแทน

โรงเรียนมัธยมในหลุย์วิลล์ เคนตั๊กกี้ อยู่ไม่เป็นสุขเมื่อผู้ปกครองของเด็กปีสองเอาระเบียบการแต่งกายของโรงเรียนมาโพสต์ลงในโซเซียล มีเดีย – กฎระเบียบที่ว่าห้ามนักเรียนทำผมทรงที่ทุกคนชอบที่สุดสามแบบ

แอ๊ตติก้า สก็อต ซึ่งให้ลูกสาวไปโรงเรียนบัตเลอร์ เทรดิชั่นแนล ไฮสคลู เอากฏการไว้ผมมาลงในทวิตเตอร์ของเธอ

บรรทัดแรกของกฎในหมวด "ทรงผม/การไว้ผม" เป็นดังนี้

ไม่อนุญาตให้นักเรียนทำผมฟรุ้งฟริ้ง เวอร์วัง เป็นจุดเด่น คนสนใจ ไม่ให้ถักเปียเกลียวแบบทวิสต์,ไม่ให้ถักเปียแบบดรีดล็อค, คอร์นโรล, โมฮ็อก และห้ามติดเครื่องประดับผมทุกชนิด 

คำถามก็คือ อะไรทำให้ทรงผม - ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นทรงผมที่ผู้หญิงผิวดำ ไว้กันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก - ทำให้คนสนใจมากกว่าทรงผม...แบบ...หางเปียหรือเปียแบบเฟรนซ์ เบรด

ถ้าคุณๆไม่พอใจที่ได้ยินคำพูดเป็นนัยๆว่าผมทรงดรีดล็อค หรือคอร์นโรว์ (cornrows ถักเป็นเส้นจนเป็นแนวเม็ดข้าวโพดทั้งศีรษะ) และเป็นทรงผมที่เวอร์วัง คุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกเช่นนั้นหรอก

เพราะเมื่อมีคนเห็นทวิตเตอร์ของคุณแม่คนนี้ พวกเขา ก็ส่งต่อกันออกไปมากกว่าหนึ่งพันครั้งอย่างรวดเร็ว

เรื่องชักจะบานปลาย โรงเรียนจึงเรียกประชุมครูและผู้ปกครองเพื่อถก หาข้อดีข้อเสียของนโยบายนี้อย่างเร่งด่วน

"นี่เป็นวิถีชีวิตของเรา" นักเรียนเชย์ล่า ฟอร์ดกล่าว "เพราะถ้าฉันไม่ถักเปียเกลียว  ถ้าฉันไม่ไว้ผมคอร์นโรว์ เด็กที่อยู่ข้างหลังก็จะบ่นว่าเขาไม่เห็นว่าฉันอยู่ตรงไหน"

จากเหตุการณ์นี้ โรงเรียนจึงเลื่อนนโยบายเกี่ยวกับผมออกไป หมายความว่าพวกเขาอนุญาตให้นักเรียนไว้ผมทรงอะไรก็ได้เมื่อโรงเรียนเปิดในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึง

เมื่อก่อน เราไม่ค่อยได้ยินปัญหาเกี่ยวกับระเบียบการแต่งตัว/การไว้ผมของนักเรียนมากนัก แต่เมื่อปีที่แล้ว เด็กเกรดแปดในโตรอนโต้ถูกไล่กลับบ้านเพราะไว้ผมในแบบที่ครูใหญ่ของโรงเรียนระบุว่า "ไม่เหมือนนักเรียน" และ "ฟูเกินไป" ตอนนั้น เด็กสาวคนนี้บอกกับนักข่าวว่า "ฉันไม่เห็นว่าผมของฉันจะมีปัญหาอะไร เพราะมันไม่ได้ไปหนักหัวใคร"

เมื่อคิดว่าเด็กไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอที่ไล่พวกเขากลับบ้านเพราะทรงผมของพวกเขา

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่


วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559

มือที่สาม

ผีญี่ปุ่นออกอาละวาดในประเทศจีน




ผีญี่ปุ่นที่เอาอึและฉี่ไปละเลงหน้าห้องของอาหมวยคนหนึ่ง ถูกตำรวจจับได้แล้ว

ชายหนุ่มซึ่งแต่งตัวเป็นผีและเอาอึเอาฉี่ไปละเลงประตูห้องของผู้หญิงคนหนึ่งนานถึงเจ็ดเดือนถูกตำรวจจับได้แล้ว

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นในเดือนมกราคม เมื่อชายคนหนึ่ง ห่มผ้าขาว ใส่รองเท้าสีแดง ใส่วิกผมยาวสีดำ ลักษณะคล้ายผีญี่ปุ่น เริ่มกิจกรรมอันน่าขยะแขยงของเขา

เทปจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นรูปพรรณของคนร้าย – ซึ่งใส่หน้ากากสีขาว ห่มผ้าขาว ใส่รองเท้าสีแดงขนาดใหญ่เหมือนการ์ตูนและใส่วิกผมยาวสีดำ – เดินไปตามทางเดินในอพาร์ตเมนต์ไปยังห้องของเหยื่อสาว จากนั้นเอาถุงที่เหมือนถุงใส่อึและฉี่ออกมาละเลงใส่ประตูห้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุการณ์แบบนี้เริ่มขึ้นในเดือนมกราคมเมื่อเหยื่อสาวชื่อหยางได้รับโน้ตกล่าวหาว่าเธอ “ไปสร้างความแตกแยกให้กับครอบครัวอื่น“ (สำนักข่าวบางสำนักรายงานว่า ในโน้ตเขียนว่าเธอเป็นเมียน้อยที่ทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก)

อาหมวยหยางกล่าวว่าเธอเองก็เขียนโน้ตไปแปะไว้หน้าห้องเพื่อบอกกับคนที่ทำเช่นนี้ว่าเธออยากอธิบายเรื่องนี้กับเขาแบบเห็นหน้าเห็นตากัน แต่ผีตนนั้นไม่ฟังและยังเอาอึเอาฉี่มาละเลงหน้าห้องของเธอต่อไป

เมื่อเป็นเช่นนี้ อาหมวยจึงเอากล้องวงจรปิดไปติดไว้หน้าห้อง แต่กล้องตัวหนึ่งถูกทุบจนพังเมื่อเดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ดี เมื่อวันอังคาร ตำรวจในเมืองตาลี่ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนาน กล่าวว่าพวกเขาจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว โดยผู้ต้องสงสัยเป็นชาย อายุ 42 ปี

ข่าวรายงานว่าเขาจะถูกจับไว้ 20 วัน เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม

(แปลกดี สมมุติว่าอาหมวยเป็นมือที่สามจริงๆ แล้วหนุ่มคนนี้ไปเกี่ยวอะไรด้วย มาจีบอาหมวยแล้วอาหมวยไม่เล่นด้วย? หรือเป็นเก้ง เห็นอาหมวยสวยกว่า?)

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เครดิต การ์ดพาตำรวจนิวยอร์กไปจับโจร

โจรปล้นธนาคารเลียนแบบหนัง


หัวตัดแก๊ส


ผู้ต้องสงสัยสามคนที่ถูกสงสัยว่าโจรกรรมเงินหลายล้านดอลลาร์ไปจากธนาคารในนิวยอร์กสองแห่งถูกจับได้เพราะใช้เครดิต การ์ดซื้ออุปกรณ์ในการโจรกรรม

เมื่อวันอังคาร ชายทั้งสามถูกตั้งข้อหาว่าใช้เครื่องตัดแก๊ส ตัดหลังคาธนาคารในบรุ๊คลินและควีน เข้าไปหาตู้เซฟแล้วโจรกรรมเงินสดและของมีค่าเมื่อเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ตำรวจเปิดเผยว่า พวกเขาถูกจับได้เพราะเทปจากกล้องวงจรปิด จากข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ และจากสำเนาใบเสร็จที่พวกเขาไปซื้อไม้อัดจากโฮม เดโป และซื้อเครื่องตัดแก๊สจากร้านขายเครื่องเชื่อมในเมือง เพื่อเอามาประกอบอาชญากรรม

“การโจรกรรมคราวนี้คล้ายกับฉากในภาพยนต์เรื่องฮีท – ซึ่งหัวขโมยกลุ่มหนึ่งทำงานกันอย่างเป็นระบบ ทำให้ตำรวจงง” ตำรวจนิวยอร์กระบุในการแถลงข่าว “ภาพของการโจรกรรมค่อยๆชัดเจนขึ้น วันนี้เราจึงจับและตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยได้”

ผู้ต้องสงสัยทั้งสามเป็นชาวบรุ๊คลิน พวกเขาโจรกรรมเงินและทรัพย์สินมีค่า – รวมทั้งเครื่องเพชรและการ์ดเบสบอล – รวมแล้วมากกว่า 5 ล้านเหรียญดอลลาร์

หากศาลตัดสินว่าทั้งสามมีความผิดจริง พวกเขาอาจจะติดคุกคนละ 20 ปี

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หญิงวัยกลางคน ปล้นธนาคารแล้วโปรยเงินทิ้ง

ป้าชาวอเมริกันปล้นธนาคารทั้งๆที่เพิ่งออกมาจากคุก





บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ปรึกษาหารือ ไม่ต้องเสียสตางค์ (เพลงเด็กวัด ตู้ ดิเรก อมาตยกุล)

ป้าชาวอเมริกันปล้นธนาคารในไวโอมิ่ง แล้วโปรยเงินทิ้ง จากนั้นนั่งรอตำรวจทั้งๆที่เธอเพิ่งพ้นโทษออกมาแท้ๆ  - เหตุเกิดที่ไซเยนน์ ไวโอมิ่ง

ตำรวจเปิดเผยว่าคุณป้า ลินดา ทอมป์สัน อายุ 59 บอกพวกเขาว่าเธออยากกลับเข้าคุก

ป้าทอมป์สันบอกกับนักข่าวว่าเธอถูกใครก็ไม่รู้ชกในสวนสาธารณะในเมืองไซเยนน์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เธอหน้าแตกและปวดมาก

จากบันทึกคำให้การในศาล ป้าทอมป์สันกล่าวว่าบ้านพักสำหรับคนไร้บ้านไม่มีห้องให้เธออยู่ เธอจึงตัดสินใจปล้นธนาคารเพราะเธอนอนข้างถนนไม่ได้อีกแล้ว

ป้าไปขึ้นศาลด้วยข้อหาปล้นธนาคารเมื่อวันอังคารที่แล้วโดยไม่มีทนาย

เจ้าหน้าเอฟบีไอให้การในศาลว่าป้าทอมป์สันเข้าไปในธนาคาร ยูเอส แบงก์ สาขาไซเยนน์ แล้วยื่นกระดาษให้พนักงานรับจ่ายเงิน

บนกระดาษมีข้อความเขียนว่า “ฉันมีปืน เอาเงินมาให้หมด”

พนักงานธนาคารยื่นเงินให้เธอหลายพันดอลลาร์

พอได้เงิน ป้าทอมป์สันก็ออกมาจากธนาคาร แล้วโปรยเงิน นอกจากนั้นก็ยังยื่นให้กับคนที่ผ่านไปมาอีกด้วย

เอฟบีไอเล่าต่อไปว่าเมื่อตำรวจไซเยนน์ไปถึงธนาคาร พวกเขาพบเงินก้อนโตอยู่ในตัวของป้าทอมป์สัน

เอฟบีไอเสริมว่าตำรวจเมืองไซเยนน์ถามป้าทอมป์สันว่าเกิดอะไรขึ้น ป้าตอบว่า “ฉันเพิ่งปล้นธนาคาร ฉันอยากกลับไปเข้าคุก”

เจ้าหน้าที่สถานกักกันโอเรกอนกล่าวว่าทอมป์สันติดคุกด้วยคดีปล้น สถานกักกันในเมืองวิลสันวิลล์เพิ่งปล่อยตัวเธอออกมาเมื่อวันศุกร์

ป้าทอมป์สันบอกกับตำรวจว่าเธอไม่อยากถูกปล่อยตัว และฝากข่าวไปถึงเจ้าหน้าที่ทัณฑ์บนว่าถ้าเธอได้รับทัณฑ์บนออกมา เธอจะทำตัวไม่ดี

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สั้นเสมอหู

ผู้พิพากษาในเคนตั๊กกี้ฉุนขาดเมื่อผู้ต้องหาหญิงถูกนำตัวมาศาลโดยไม่ได้นุ่งกางเกง 





ผู้ต้องหาหญิงซึ่งไม่ระบุชื่อถูกพาตัวมาที่ศาลแขวงเจฟเฟอร์สันเพื่อฟังคำตัดสินในข้อหาที่เธอไม่ได้ทำงานเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ตามโปรแกรมที่วางไว้

ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาหญิงซึ่งไม่ระบุชื่อคนนี้เคยทำผิดข้อหาลักทรัพย์และถูกตัดสินให้ไปบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์มาแล้ว แต่เธอทำไม่ครบตามคำสั่ง จึงถูกนำมาตัวมาขึ้นศาลอีกครั้ง

คราวนี้ผู้พิพากษาที่จะตัดสินคดีได้แก่ผู้พิพากษาวูล์ฟ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้พิพากษาหญิง

ในศาล ทนายความมากระซิบบอกผู้พิพากษาว่าผู้ต้องหาไม่ได้นุ่งกางเกง

ส่วนผู้ต้องหาก็บอกศาลว่าไม่มีใครเอากางเกงมาให้เธอใส่และเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนผ้าอนามัยตั้งแต่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ซึ่งมาถึงวันที่มาขึ้นศาล ก็สามวันเข้าไปแล้ว

“ว่าไงนะ?” ผู้พิพากษาอุทาน “ทำไมโหดร้ายอย่างนี้ มันเป็นเรื่องจริงเหรอ?”

ผู้พิพากษาสั่งพักการพิจารณาคดีแล้วโทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ควบคุมความประพฤติทันที “ฉันจะเอาเธอไว้ที่นี่จนกว่าเธอจะแต่งตัวให้เหมาะสมก่อนที่จะส่งกลับไปเรือนจำ”

ทนายบอกกับศาลว่าผู้ต้องหาเคยขอกางเกงยางยืดมาใส่แต่ได้รับการปฏิเสธ

โฆษกของกรมควบคุมความประพฤติบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ต้องหาที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำไม่ถึง 72 ชั่วโมง”

“มันเป็นมาตรฐานที่ผู้ต้องหาจะต้องใส่ชุดที่ใส่ในวันที่ถูกจับ โดยเฉพาะอย่างใน 72 ชั่วโมงแรก”

เจ้าหน้าที่ของเรือนจำกล่าวว่าผู้ต้องหาคนนี้ใส่กางเกงแบบสั้นจุ๊ดจู๋ซึ่งชายเสื้อปิดอยู่จนมองไม่เห็น

ขณะนี้กำลังมีการสอบสวนว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำปฏิเสธ ไม่ให้ผ้าอนามัยแก่ผู้ต้องหาจริงหรือไม่

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่