ลูกจ้างเมืองน้ำหอมกำลังจะได้เฮ...
เมื่อวานพูดไปแล้วว่า กฎหมายที่เข้มงวดของฝรั่งเศสทำให้บริษัทผลิตมือถือและคอมพิวเตอร์จากสหรัฐที่ไปตั้งโรงงานในฝรั่งเศสถูกปรับมาแล้วเพราะให้คนงานทำงานในเวลากลางคืน
ที่ถูกปรับก็เพราะฝรั่งเศสมีกฎหมายห้ามการทำงานในกะกลางคืน (ตั้งแต่สามทุ่มจนถึงหกโมงเช้า)เว้นแต่งานนั้นๆจะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจหรือสำคัญต่อสังคม
กฎหมายซึ่งกำหนดเวลาทำงานสัปดาห์ละ 35 ชั่วโมง – ที่พรรคสังคมนิยมนำมาใช้ในปี 1999 – ส่อแววจะเสื่อมความขลังลงเมื่อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์โมบายอื่นๆแพร่หลายมากขึ้นๆ ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงหวังว่ากฎหมายใหม่ฉบับนี้จะลดอาการเบิร์น เอ้าท์ (burn out คืออาการเหนื่อยล้าจากการตรากตรำทำงาน นานๆ ) ของลูกจ้างลง
ฌอง คล็อด จากเทคโนโลเกีย กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าลูกจ้างชาวฝรั่งเศสประมาณ 3.2 ล้านคนเสี่ยงที่จะมีอาการเบิร์น เอ้าท์เพราะนายจ้างไม่เคารพสิทธิ์ ให้ลูกจ้างมีเวลาส่วนตัวของตัวเอง
เขากล่าวว่าการ ‘เปลี่ยนทัศนคติ’ เป็นสิ่งจำเป็นและเสริมว่า “เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆออกมา เรา (ชาวฝรั่งเศส)จะควบคุมตัวเองได้ค่อยไม่ดี ทำให้ขาดธรรมาภิบาลในการบริหารงาน งานจึงล้นเข้าไปในเวลาส่วนตัวของผู้คน
“เมื่อก่อน เวลาทำงานกับเวลาส่วนตัวจะแยกจากกันอย่างชัดเจน”
“ถ้าเราเอากฎหมายที่ให้สิทธิ์ลูกจ้าง (ให้สามารถตัดขาดจากการทำงานในเวลาส่วนตัว) มาใช้แต่ไม่ลดปริมาณงานของลูกจ้างที่อยู่ในสภาวะถูกกดดันลง นายจ้างก็จะเพิกเฉยต่อกฎหมายนี้หรือหาวิธีที่จะสั่งงานลูกจ้างในเวลาส่วนตัวอยู่ดี”
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสออกมายืนยันแล้วว่าไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงชั่วโมงการทำงาน (35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)แต่อย่างใด
ชั่วโมงการทำงานในฝรั่งเศสไม่เท่ากับในสหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักรอนุญาตให้ลูกจ้างทำงานได้ถึงสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง
โดยทั่วไปคนอังกฤษทำงานปีละ 1677 ชั่วโมง ในขณะที่คนฝรั่งเศสทำปีละ 1473 ชั่วโมง
ในสหรัฐ ลูกจ้างทำงานปีละ 1789 ชั่วโมงแต่ในคนแม็กซิกันทำ 2228 ชั่วโมง
อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น