เฟซบุ๊กช่วยจับขโมย?
"คงไม่มีอะไรทำให้ผมเสียใจได้มากไปกว่านี้แล้ว"
หนุ่มน้อยชาวคานาดาเดินมามอบตัวหลังจากผู้เสียหายขอเป็นเพื่อนกับเขาในเฟซบุ๊ก
มันเป็นเพราะการขอเป็นเพื่อนที่ทำให้เป็นเช่นนี้
เหตุตาลปัตรคราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเมื่อสเตฟาน
เทอเจเซน อยู่เมืองกิมลี รัฐแมนิโตบา คานาดา มาถึงร้านเฮท.พี.เทอเจเซน แอนด์ ซันส์ ที่เขาเป็นเจ้าของร้าน แล้วพบว่ามีคนเอาเหล็กถอดล้อทุบกระจกร้านแล้วเข้ามาขโมยนาฬิกาไปหลายเรือน
กิมลีอยู่ทางตอนเหนือของเมืองวินนิเปก
ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐแมนิโตบา มันเป็นชุมชนเล็กๆในชนบท มีประชากรประมาณ 6000
คน ร้านเฮท.พี เทอเจเซนเปิดมาร้อยกว่าปีแล้วโดยบรรพบุรุษของสเตฟานเป็นคนเปิด
(เฮท.พี.เทอเจเซนเป็นปู่ของสเตฟาน)
มันเป็นร้านที่คนที่นั่นรัก
เมื่อสเตฟานเปิดดูคลิปในกล้องวงจรปิด เขาเห็นหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน
เขาจึงเอาคลิปไปโพส์ตในเฟซบุ๊กของเขา และดูเหมือนคนทั้งเมืองจะไม่อยู่เฉย คลิปวีดีโอจึงถูกแชร์ออกไปมากกว่า
8000
ครั้งใน 24 ชั่วโมง
มีคนนับสิบกล่าวว่าพวกเขารู้จักเด็กวัยรุุ่นที่อยู่ในคลิป
และเอาชื่อให้สเตฟาน แต่ก่อนที่จะไปหาตำรวจ สเตฟานหันไปหาเฟซบุ๊ก
เขาส่งคำขอเป็นเพื่อนไปหาเด็กแล้วรอคำตอบ
เวลาผ่านไปห้านาที...สิบนาที...สิบห้านาที...
กล่าวถึงหัวขโมยวัยละอ่อน เมื่อเขาเห็นว่ามีคนขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก
เขาจึงเปิดดูโปรไฟล์ เขาเห็นรูปชายคนหนึ่งกำลังจูบหมา
ชายคนนี้เขียนในเฟซบุ๊กของเขาว่าถูกโจรบุกเข้าไปขโมยของในร้านของเขา –
พระเจ้าช่วย กล้วยทอด
ทำไมโชคร้ายอะไรเช่นนี้...เด็กหนุ่มถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว...
มันเศร้า
หลังจากได้รับคำขอเป็นเพื่อนสิบห้านาที
เขาก็ส่งเมสเสจไปหาสเตฟาน แล้วบอกเพื่อนใหม่ว่าเขาจะมอบตัว
"ผมอยู่ไม่ได้เพราะสิ่งที่ผมทำลงไป
ผมจะคืนของให้ทุกอย่าง"
ตัดภาพกลับมาทางสเตฟาน
"เขาเห็นคำขอเป็นเพื่อนของผม และคงตกใจเล็กน้อย" สเตฟานบอก "ตอนนั้น
ผมอยากเห็นสีหน้าของเขาจริงๆ ผมคิดว่าเขารู้ตัวแล้ว เขาทำผิดและควรกลับตัวกลับใจโดยเร็ว"
เมื่อเขาได้รับคำขอโทษจากขโมย
ซึ่งอธิบายว่าเขาเมาและไม่ได้คิดให้ดีในคืนที่ทุบกระจกเข้าไปขโมยของในร้านและจะไปมอบตัวกับตำรวจ
-
สเตฟานตอบเด็กกลับไปว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
"เพื่อนๆคงพูดกับเขา หรือไม่เขาก็เห็นคลิปวีดีโอ
เพราะมันกระจายออกไปเยอะ ผมคิดว่าเขาคงรู้ว่าเขาไม่มีทางรอด" สเตฟานกล่าว "ผมรู้สึกดีมากๆที่คนในชุมชนร่วมมือกัน"
เขาเสริม
แต่ตำรวจคานาดาไม่เป็นปลื้มกับการสืบหาขโมยด้วยเทคนิคเช่นนี้
พวกเขากล่าวว่าพวกเขาเข้าใจวัตถุประสงค์ของสเตฟาน แต่อยากให้คนปล่อยให้การตามหาคนร้ายเป็นหน้าที่ของมืออาชีพ
"พฤติกรรมของอาชญากรและคนที่สิ้นหวังในชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก
เราควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือมีการติดต่อสื่อสารกับพวกเขาโดยตรง"
แต่สเตฟานดูจะพอใจผลงานการปิดคดีของมือสมัครเล่นของตน
และยังไม่หนำใจเขาบอกว่า "ผมบอกกับขโมยอย่างชัดเจนว่าผมทำรายการของๆที่หายไปเอาไว้ทั้งหมด"
เขากล่าว "และเขาควรเอามันมาคืนให้ครบ"
ขอขอบคุณภาพจาก Pexels.com
อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น