วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559

ข่าวแปลก: เฟซบุ๊กเป็นฮีโร่จับขโมย

เฟซบุ๊กช่วยจับขโมย?


"คงไม่มีอะไรทำให้ผมเสียใจได้มากไปกว่านี้แล้ว" หนุ่มน้อยชาวคานาดาเดินมามอบตัวหลังจากผู้เสียหายขอเป็นเพื่อนกับเขาในเฟซบุ๊ก

มันเป็นเพราะการขอเป็นเพื่อนที่ทำให้เป็นเช่นนี้

เหตุตาลปัตรคราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเมื่อสเตฟาน เทอเจเซน อยู่เมืองกิมลี รัฐแมนิโตบา คานาดา มาถึงร้านเฮท.พี.เทอเจเซน แอนด์ ซันส์ ที่เขาเป็นเจ้าของร้าน แล้วพบว่ามีคนเอาเหล็กถอดล้อทุบกระจกร้านแล้วเข้ามาขโมยนาฬิกาไปหลายเรือน

กิมลีอยู่ทางตอนเหนือของเมืองวินนิเปก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐแมนิโตบา มันเป็นชุมชนเล็กๆในชนบท มีประชากรประมาณ 6000 คน ร้านเฮท.พี เทอเจเซนเปิดมาร้อยกว่าปีแล้วโดยบรรพบุรุษของสเตฟานเป็นคนเปิด (เฮท.พี.เทอเจเซนเป็นปู่ของสเตฟาน) มันเป็นร้านที่คนที่นั่นรัก

เมื่อสเตฟานเปิดดูคลิปในกล้องวงจรปิด เขาเห็นหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน เขาจึงเอาคลิปไปโพส์ตในเฟซบุ๊กของเขา และดูเหมือนคนทั้งเมืองจะไม่อยู่เฉย คลิปวีดีโอจึงถูกแชร์ออกไปมากกว่า 8000 ครั้งใน 24 ชั่วโมง

มีคนนับสิบกล่าวว่าพวกเขารู้จักเด็กวัยรุุ่นที่อยู่ในคลิป และเอาชื่อให้สเตฟาน แต่ก่อนที่จะไปหาตำรวจ สเตฟานหันไปหาเฟซบุ๊ก

เขาส่งคำขอเป็นเพื่อนไปหาเด็กแล้วรอคำตอบ เวลาผ่านไปห้านาที...สิบนาที...สิบห้านาที...

กล่าวถึงหัวขโมยวัยละอ่อน เมื่อเขาเห็นว่ามีคนขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เขาจึงเปิดดูโปรไฟล์ เขาเห็นรูปชายคนหนึ่งกำลังจูบหมา ชายคนนี้เขียนในเฟซบุ๊กของเขาว่าถูกโจรบุกเข้าไปขโมยของในร้านของเขา

พระเจ้าช่วย กล้วยทอด ทำไมโชคร้ายอะไรเช่นนี้...เด็กหนุ่มถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว... มันเศร้า

หลังจากได้รับคำขอเป็นเพื่อนสิบห้านาที เขาก็ส่งเมสเสจไปหาสเตฟาน แล้วบอกเพื่อนใหม่ว่าเขาจะมอบตัว

"ผมอยู่ไม่ได้เพราะสิ่งที่ผมทำลงไป ผมจะคืนของให้ทุกอย่าง"

ตัดภาพกลับมาทางสเตฟาน "เขาเห็นคำขอเป็นเพื่อนของผม และคงตกใจเล็กน้อย" สเตฟานบอก "ตอนนั้น ผมอยากเห็นสีหน้าของเขาจริงๆ ผมคิดว่าเขารู้ตัวแล้ว เขาทำผิดและควรกลับตัวกลับใจโดยเร็ว"

เมื่อเขาได้รับคำขอโทษจากขโมย ซึ่งอธิบายว่าเขาเมาและไม่ได้คิดให้ดีในคืนที่ทุบกระจกเข้าไปขโมยของในร้านและจะไปมอบตัวกับตำรวจ - สเตฟานตอบเด็กกลับไปว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

"เพื่อนๆคงพูดกับเขา หรือไม่เขาก็เห็นคลิปวีดีโอ เพราะมันกระจายออกไปเยอะ ผมคิดว่าเขาคงรู้ว่าเขาไม่มีทางรอด" สเตฟานกล่าว "ผมรู้สึกดีมากๆที่คนในชุมชนร่วมมือกัน" เขาเสริม

แต่ตำรวจคานาดาไม่เป็นปลื้มกับการสืบหาขโมยด้วยเทคนิคเช่นนี้ พวกเขากล่าวว่าพวกเขาเข้าใจวัตถุประสงค์ของสเตฟาน แต่อยากให้คนปล่อยให้การตามหาคนร้ายเป็นหน้าที่ของมืออาชีพ

"พฤติกรรมของอาชญากรและคนที่สิ้นหวังในชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก เราควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือมีการติดต่อสื่อสารกับพวกเขาโดยตรง"

แต่สเตฟานดูจะพอใจผลงานการปิดคดีของมือสมัครเล่นของตน และยังไม่หนำใจเขาบอกว่า "ผมบอกกับขโมยอย่างชัดเจนว่าผมทำรายการของๆที่หายไปเอาไว้ทั้งหมด" เขากล่าว "และเขาควรเอามันมาคืนให้ครบ"

ขอขอบคุณภาพจาก Pexels.com

อ่านข่าวแปลกได้เป็นประจำที่นี่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น