วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การผ่าตัดเอาหัวใจหมูมาใส่แทนหัวใจคน

เมื่อวานไม่น่าเอาทิปเรื่องหมูมาให้อ่านเลย เพราะมันไม่จบ ก็เลยต้องเอามาให้อ่านต่อ

Steptoscope / Photo credit: Pixabay.com
การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ โดยเอาหัวใจหมูมาใส่แทนหัวใจคนกำลังจะเป็นจริง...
มีข่าวเมื่อเดือนเมษา 2014 ว่าลิงบาบูนในห้องปฎิบัติการมีหัวใจของหมูอยู่ในตัวมากว่าหนึ่งปีแล้ว – นี่ถือเป็นข่าวดี   

นักวิจัยรายงานว่าลิงตัวนี้มีชีวิตอยู่นานกว่าหนึ่งปีแล้วหลังจากผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเป็นหัวใจหมู การมีชีวิตอยู่อย่างยาวนานเช่นนี้ถือเป็นปรากฎการณ์สำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อนักวิจัยพยายามผ่าตัดเอาหัวใจหมูมาใส่แทนหัวใจของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะปฎิเสธหัวใจใหม่ภายในหกเดือน

นักวิทยาศาสตร์ต้องการเอาหัวใจหมูมาเปลี่ยนให้คนมาก การมีหมูจำนวนมาก หมายความว่ามีหัวใจที่จะให้กับคนเป็นจำนวนมาก มันมากกว่าจำนวนของหัวใจของคนที่มาบริจาคมาก ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างอุปสงค์กับอุปทานอีก

สถาบันหัวใจ ปอดและโลหิตแห่งชาติสหรัฐ - ซึ่งทำการทำลองเปลี่ยนหัวใจให้ลิงบาบูน - กล่าวว่า ในสหรัฐ มีคนประมาณ 3000 คนต่อคิวรอผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ แต่ในแต่ละปีมีหัวใจให้เปลี่ยนเพียงประมาณ 2000 ดวงเท่านั้น สถาบันกล่าวว่าคนที่รอหัวใจ สามารถใช้อุปกรณ์ทางแมคคานิคอื่นๆได้ แต่อุปกรณ์เหล่านี้ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบเสียเลยทีเดียว 

หัวใจหมูเป็นหัวใจที่มีอนาคตสดใสเพราะลักษณะทางกายวิภาคของมันใกล้เคียงกับหัวใจมนุษย์ หมอหลายคนเคยเอาลิ้นหัวใจของหมูและวัวมาใช้กับคนมาแล้ว แต่ดูเหมือนหัวใจหมูจะเป็นสิ่งแปลกปลอมเกินไป จนร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่สามารถรับเอาไว้ง่ายๆ

จากการศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่าเมื่อผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจหมู เข้าไปแทนหัวใจของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หัวใจหมูจะกระตุ้นภูมิต้านทาน (ข่าวบางสำนักเรียกสิ่งที่ต่อต้านนี้ว่าไวรัสที่มีมาตั้งแต่กำเนิดในเซลล์ของหมู native viruses in pig cells) ออกมาต่อต้านสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่พวกมันถูกเปลี่ยนเข้าไป การต่อต้านเช่นนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตและเป็นอุปสรรคในการพัฒนาการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจหมูมาใส่แทนหัวใจคน หรือถ้าจะเป็นไปได้ มันก็คงต้องใช้เวลาอีกเป็นปีๆก่อนที่หัวใจหมูจะพร้อมสำหรับคนไข้ที่เป็นคน

เพื่อทำหัวใจที่ลิงบาบูนจะไม่ปฎิเสธ – และในอนาคตคนจะไม่ปฎิเสธ –ทีมงานของสถาบันโลหิต ปอดและหัวใจแห่งชาติสหรัฐอเมริกาได้สร้างหมูของพวกเขาขึ้นมา โดยเติมยีนส์บางตัวของมนษย์ลงไปและตัดยีนส์บางตัวของหมูออกไป นอกจากนั้น นักวิทยาศาสตร์ก็ยังใช้ยากดภูมิคุ้มกันให้กับลิงบาบูนของพวกเขาด้วย
Piglet/ Photo credit: Pixabay.com

ดูเหมือนสิ่งที่ทำให้การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจได้ผลก็คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการตกแต่งยีนส์และการมียากดภูมิคุ้มกันที่เหมาะสม ในบทความย่อที่ทีมงานนำเสนอในการประชุมศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก ทีมผู้วิจัยระบุว่าเมื่อทดลองใช้ยาอื่นที่แตกต่างออกไป ลิงของพวกเขาจะตายภายในหนึ่งปี ส่วนลิงที่ได้รับหัวใจที่ไม่ได้ตัดต่อยีนส์จะปฎิเสธหัวใจภายในหนึ่งวัน

เมื่อทีมงานได้แสดงให้เห็นว่าหัวใจหมูสามารถอยู่ในตัวลิงได้อย่างปลอดภัย ขั้นตอนต่อไปก็คือเปลี่ยนหัวใจลิงด้วยหัวใจหมูจริงๆ  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลิงบาบูนที่เป็นพระเอกในการวิจัยคราวนี้มีหัวใจหมูอยู่ในตัว โดยยังมีหัวใจของมันอยู่ด้วย (คณะวิจัยไม่ได้ผ่าเอาหัวใจลิงออกและหัวใจลิงก็ยังทำหน้าที่ของมัน)

(ย่อมาจากเปเปอร์ที่เสนอในงานประชุมประจำปี 2014 ของสมาคมศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอกอเมริกัน)

ข่าวข้างต้นเป็นข่าวเมื่อกลางปี 2014 ต่อมาเมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ ได้มีข่าวเพิ่มเติมว่า มีนักวิทยาศาสตร์อีกคณะหนึ่งได้พัฒนาการเครื่องมือตกแต่งยีนส์หัวใจหมูให้ตัดยีนส์ไม่ดีของหมูได้มากกว่าเดิม อันจะทำให้เอาอวัยวะของหมูมาใช้ในคนได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โปรดติดตามความก้าวหน้าในเรื่องนี้ต่อไป

หมายเหตุ: นี่เป็นการแปลข่าวที่ทำให้เห็นความคืบหน้าทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น 

ทิป: ร้านข้าวหมูแดงอร่อย - ไม่ได้ตั้งตัวเป็นนักชิมหรอกครับ แต่ส่วนตัว ชอบข้าวหมูแดงที่มีน้ำราดสีเข้ม มีรสชาติ ไม่ชอบข้าวหมูแดงที่น้ำราดใสๆ สีส้ม ถ้าชอบเหมือนกันก็มีร้านแนะนำสามร้าน
ร้านแรกอยู่สถานีรถไฟตลาดพูล ถ้านั่งรถไฟ จากวงเวียนใหญ่ก็ไปลงที่สถานีตลาดพลู เป็นร้านเล็กๆ ถ้าขับรถไป ก็ไปจากวงเวียนใหญ่ มุ่งหน้าไปบางยี่เรือ จากนั้น เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวุฒากาศ ขับไปเรื่อยๆ ผ่านวัดกลาง จนถึงร้านสมุนไพรสุภากรณ์ ตรงนั้นจะมีสะพานลอยรถข้าม แถวสะพานลอยนั่นแหละคือสถานีรถไฟ (แต่มันหาที่จอดลำบากมาก)
ร้านที่สองชื่อร้านหมูทำอะไรก็อร่อย อยู่ถนนอรุณอมรินทร์ ใกล้ๆกับนวดแผนโบราณอะไรสักอย่าง ห่างจากทางขึ้นสะพานพระราม ๘ ไม่ไกล
ร้านที่สามเป็นร้านบะหมี่ ชื่อจีนๆ (ไม่เคยจำสักที) ขับรถมาจากสุขุมวิท ๑๐๑/๑ พอมาถึงศรีนครินทร์ ให้ตรงไปทางสวนหลวง ร. ๙  ร้านอยู่ติดกับคลินิกทำฟัน ตรงกันข้ามกับร้านติดตั้งแก็สรถยนต์ เลยร้านป้าโอ่งไปพอประมาณ

ขอขอบคุณภาพจาก: Pixabay.com

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น