ชาวนาอินเดียดวงซวยเดินไปยิงกระต่ายกลางทุ่ง แต่แทนที่จะได้ปลดปล่อย กลับถูกงูกัด
ไม่มีใครรู้ว่างูตัวนี้มาจากไหน
แต่มันกัดช้างน้อยของเขาจนจมเขี้ยว
ชาวนาอายุ 46 ปีคนนี้
ถูกนำตัวส่งแผนกฉุกเฉินของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ของแคสเมียร์ อินเดีย
และถึงแม้ว่าจะมาถึงโรงพยาบาลหลังถูกกัดไปแล้วสามชั่วโมงแต่เขาก็รอดมาได้
หมอตรวจบาดแผลของเขา ก็เห็นว่าช้างน้อยของเขาบวมเป่ง ตรงที่ถูกงูฝังเขี้ยวเป็นตุ่มใสๆ
ชาวนาบอกว่างูที่กัดเขาคืองูที่เรียกตามท้องถิ่นว่า
“Gunas” หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า
Levantine Viper (ดูรูป)
Levantine Viper เป็นงูพิษ
พบมากในแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลางและไม่น่าเชื่อว่าจะพบอยู่ในแคสเมียร์ของอินเดีย
รายงานของ เอ็นอีเจเอ็ม ลงวันที่
10 กันยา ระบุว่าเมื่อการตรวจเลือดพบว่าเลือดของผู้ป่วยแข็งตัวเร็วกว่าปกติเพราะพิษงูที่กระจายไปตามกระแสโลหิต
หมอจึงฉีดเซรุ่มแก้พิษงูให้เขา
เซรุ่มแก้พิษงูที่ใช้กับเขาสามารถใช้กับกับงูสามเหลี่ยมและงูเห่าบางชนิดได้ด้วย
หลังจากผ่านพ้นไปสามวัน อัตราการแข็งตัวของเลือดของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
หมอปล่อยให้เขากลับบ้านในวันที่สี่หลังจากอาการบวมบนช้างน้อยลดลง
แต่เจ้าช้างน้อยก็ยังมีรอยเป็นปื้นดำตรงที่เขี้ยวงูกัดลงไปในเนื้อ ปื้นดำที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอาการเนื้อเยื่อตาย
พอผ่านไปสองสัปดาห์ คนไข้ก็หายเป็นปกติ
ข่าวร้ายก็คือ จากรายงานของอินเตอร์เนชั่นแนล ซัง ฟรองตีแอร์
(เอ็มเอสเอฟ) ระบุว่าโลกกำลังจะไม่มีเซรุ่มแก้พิษยางูสายพันธ์แอฟริกัน
ผู้ผลิตเซรุ่มแก้พิษงูชื่อดังรายหนึ่งกล่าวว่าบริษัทเลิกผลิตเซรุ่มแก้พิษงูแอฟริกันไปแล้ว
จะมีสต็อคเหลืออยู่จนถึงเดือนมิถุนายนปี 2016 เท่านั้น
จากสถิติ ปีหนึ่งๆมีคนประมาณห้าล้านคนถูกงูพิษกัด ในจำนวนนี้มีคนเสียชีวิตประมาณหนึ่งแสนคน
และต้องตัดแขนตัดขานับพันคน
คนที่ถูกงูกัดรอดชีวิตมาได้เพราะได้ฉีดเซรุ่มแก้พิษงู
แต่สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนไปเมื่อโลกไม่มีเซรุ่มแก้พิษงูสายพันธ์แอฟริกันเหลืออยู่
ขอขอบคุณรูปจาก Wikipedia
หมายเหตุ: ข่าวไม่ได้บอกว่าพอโดนกัด ชาวนาเอาเชือกรัดเหนือบาดแผลและดูดพิษออกก่อนหรือเปล่า 555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น