วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: นึกว่าผีหลอก

ผีหลอก???

wood /Photo credit: Pexels.com

ตำรวจขับรถชนสนั่นหลังจากมีอะไรดำๆโฉบเข้ามาในรถและเล่นงานเขาในคืนวันคริสต์มาส อีฟ
ท่ามกลางความเงียบสงัดของคืนวันคริสต์มาส อีฟ แลนซ์ เบนจามิน – ตำรวจโรงพักโควิงตัน - กำลังออกตรวจอยู่ในหลุยเซียน่า
อากาศที่ไม่หนาวนักทำให้เขาเปิดหน้าต่างรับลม แล้วทันใดนั้นก็มีอะไรบางอย่างโฉบเข้ามาในรถ
ผี???
มันจิกแก้มเขาอย่างแรง...
แลนซ์ เบนจามินตกใจ มือไม้ปั่นป่วน รถแฉลบไปชนสิ่งกีดขวางเสียงดังสนั่น  
หะแรก แลนซ์คิดว่าเขาถูกนักฟุตบอลเล่นงาน แต่หลังจากนั้น จึงรู้ว่าอะไรก็ตามที่เล่นงานเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะมันชนหัวเขา
สุดท้าย แลนซ์ก็คุมสติได้ เขาขับรถไปจอดในสวนสาธารณะแล้วเตลิดลงไป
แดนซ์เล่าว่าเขาควบคุมรถไม่ได้แวบหนึ่ง จนรถแฉลบไปชนท่อระบายน้ำ
“สุดท้าย ผมก็หยุดรถได้ ผมเอามันไปจอดในสวนแล้วลงมา จากนั้นจึงหันกลับมาดูในรถ"
นกฮูก... นกฮูกตัวใหญ่บินเข้ามาในรถทางหน้าต่าง และตอนนี้มันก็ยังอยู่ข้างใน
owl / Photo credit: Pexels.com
หลังจากนั่งอยู่ในรถประมาณ 45 นาที ในที่สุด นกก็ตัดสินใจบินออกมา
พอเพื่อนตำรวจในโรงพักรู้เรื่อง ก็เอาตุ๊กตาผ้ายัดไส้ที่เป็นนกฮูกให้แลนซ์ ซึ่งตอนนี้มันอยู่บนคอนโซลหน้ารถของเขา
“ผมหวังว่าสักวันมันจะร้องให้ผมได้ยิน”
ขอขอบคุณภาพจาก: Pexels.com

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก:คนถึงฆาต จะรอดก็ไม่รอด

คนถึงฆาต กำลังจะรอดอยู่แล้วแต่ถูกฉลามงาบเสียก่อน

ทะเลคาริบเบียน / Photo credit: Pexels.com

ชายชาวเวเนซูเอลาคนหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปหาห่วงชูชีพ แต่ในขณะที่ยังอยู่ห่างจากความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ยามฝั่ง ดัทช์ คาริเบียน โคสท์ การ์ด อีกไม่ไกล ก็ถูกฉลาดพุ่งเข้าใส่

เขาทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตขณะถูกนำส่งโรงพยาบาล – เจ้าหน้าที่ยามฝั่งแถลง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา

เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อชายชาวเวเนซูเอล่าเจ็ดคนขนเหล้าขึ้นเรือเล็ก เดินทางจากเกาะโบแนเรอ (Bonaire ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาออกเสียงแบบนี้) เพื่อจะเอาไปขายที่เกาะอารูบาซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งของเวเนซูเอลา

ไปถึงกลางทาง เรือเกิดล่ม ชายสองคนจมไปกับเรือ อีกสี่คนเกาะแผ่นไม้และตู้เย็น ลอยคออยู่ในน้ำ พวกที่รอดชีวิตถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะขาดน้ำ

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ของยามฝั่งไปถึง เจ้าหน้าที่หย่อนเครื่องช่วยชีวิตลงไป ในขณะที่ชายผู้โชคร้ายกำลังจะเกาะห่วงชูชีพ ฉลามมาถึงตัว มันงับเขาอย่างไม่ยั้ง – โรเดอร์ริค กูเวอร์เนอร์ เจ้าหน้าที่ยามฝั่งบอกกับผู้สื่อข่าว

ไม่มีใครรู้ว่ามีผู้หญิงยิงเรือหรือเปล่า เรื่อถึงได้ล่ม และไม่มีใครรู้ว่าพวกที่อยู่บนเรือลอยคออยู่ในน้ำนานแค่ไหน

ตามปกติ ชาวเวเนซูเอลาจะเอาสินค้าใส่เรือไปขายตามเกาะต่างๆเสมอ

(อ่านจบแล้ว มีคำถามหลายข้อ เช่นลูกเรือทั้งหมดลอยคออยู่ในน้ำนานแค่ไหนก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง? ฉลามวนเวียนอยู่แถวนั้นตลอดเวลาหรือเปล่า? สัญชาตญาณของปลา จะไม่จู่โจมเหยื่อที่ไม่เคลื่อนไหว และโจมตีเหยื่อที่เคลื่อนไหว? ลูกเรือสี่คนที่ปลอดภัยถูกช่วยขึ้นมาก่อน? ลูกเรือที่เสียชีวิตเพราะอยู่ห่างห่วงชูชีพเกินไป? ฯลฯ - ผมเอง)

ทิป: โบแนเรอ เป็นเกาะในแนวลูกโซ่ลีเวิร์ด แอนทิลลีส ในทะเลคาริบเบียน 
โดยทั่วไปคนจะเอาเกาะโบแนเรอ เกาะอารูบาและเกาะบริวาร และเกาะกือราเชาและเกาะบริวาร มารวมกันแล้วเรียกชื่อว่าหมู่เกาะเอบีซี ( ABC Islands)
หมู่เกาะ เอบีซี อยู่บริเวณชายฝั่งทางด้านเหนือของอเมริกาใต้ ใกล้ๆกับภาคตะวันตกของเวเนซูเอลา
หมู่เกาะ เอบีซี มีสภาพอากาศไม่เหมือนกับหมู่เกาะอื่นในทะเลคาริบเบียนเพราะอยู่นอกเส้นทางที่พายุเฮอร์ริเคนจะพัดผ่านและมีฝนตกน้อย สำหรับนักท่องเที่ยว พวกเขาสามารถเจอกับอากาศร้อนๆและแสงแดดได้เสมอ โบแนเรอมีชื่อเสียงเรื่องดำน้ำดูปะการัง

ขอขอบคุณภาพจาก: Pexels.com /ทะเลคาริบเบียน

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน


วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก:จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ


จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ จูบเบาๆเท่านั้นก็อาจทำให้ติดคุกได้

Photo credit: Pexels.com


เด็กนักเรียนมัธยมเจอแค่ข้อหาทำร้ายร่างกายระดับสองเพราะยังเป็นผู้เยาว์ (ถ้าไม่ใช่ผู้เยาว์อาจโดนข้อหาหนักกว่านี้) หลังถูกแจ้งความว่าจูบเพื่อนร่วมชั้นโดยที่เธอไม่ยินยอม

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมไพคส์วิลล์ ในบัลติมอร์ แมรี่แลนด์ เมื่อเด็กชายวัย 13 ปีถูกเพื่อนๆท้าให้จูบนักเรียนหญิงร่วมชั้นเรียน อายุ 14 ปีคนหนึ่ง

เขาจึงจูบเธอ (สำนักข่าวแห่งหนึ่งลงลึกลงไปว่าเขาก้าวสามขุมไปหาเธอแล้วคว้าเสื้อแถวๆชายโครงของเธอ กระชากเธอเข้ามาหา แล้วแลบลิ้นจูบเธอ แต่สำนักข่าวอื่นไม่ได้รายงาน).

หลังเกิดเหตุ ครูในโรงเรียนโทรไปแจ้งตำรวจ ตำรวจจึงมาจับเขาและตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย โฆษกของตำรวจกล่าวว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้

พอตั้งข้อหาเสร็จ ตำรวจก็ปล่อยตัวเขาให้กับแม่ แต่คณะกรรมการของโรงเรียนก็อาจลงโทษทางวินัย เช่น สั่งพักการเรียนหรือไล่เขาออกในอันดับต่อมาก็ได้


คนที่อยู่ที่นี่จำนวนมากกล่าวว่าข้อกล่าวหานี้รุนแรงเกินไป
แมรี่แลนด์ไม่ได้กำหนดอายุต่ำสุดของคนที่ไม่ต้องรับผิดต่อการกระทำความผิดทางอาญาเอาไว้ที่กี่ขวบ แต่โดยทั่วไป ในสหรัฐจะกำหนดเอาไว้ที่เจ็ดขวบ

“ฉันไม่รู้นะเนี่ยว่าการจูบคนที่ไม่อยากให้จูบเป็นการทำร้ายร่างกายและมีความผิดร้ายแรง” ผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่งของโรงเรียนบอกกับผู้สื่อข่าว

ผู้ปกครองอีกคนให้ความเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนควรให้ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมานั่งคุยกันแทนที่จะเรียกตำรวจ

“ผู้ปกครองต้องการจะเอาผิดด้วยข้อหานี้จริงๆ ก็คงไม่มีใครทำอะไรได้” เขากล่าว

ทิป: เด็กในข่าวนี้โดนข้อหา second degree assault เทียบเคียงคร่าวๆกับบ้านเราก็น่าจะอยู่ในฐานความผิดคดีอาญากลุ่มที่ ๒ (ใน ๕ กลุ่ม) ความผิดในกลุ่มที่ ๒ คือ ฆ่าผู้อื่นโดนเจตนา, ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา, กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, พยายามฆ่า, ทำร้ายร่างกาย, ข่มขืนกระทำชำเรา, ถ้าผิดพลาดยังไง ช่วยชี้แนะด้วยครับ
กระนั้นก็ดี second degree assault .ในสหรัฐเองก็ดูเหมือนก็มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะเช่นกัน

ขอขอบคุณภาพจาก: Pexels.com


อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: เที่ยวอย่างมีสติ

เที่ยวอย่างมีสติ 
Photo credit: Pexels.com





เทศกาลหยุดยาวเริ่มแล้ว หลายคนเริ่มออกต่างจังหวัดกันแล้ว ถึงอยากจะเอาแต่เรื่องเบาๆมาให้อ่าน แต่ก็ขอเตือนสติกันหน่อย โดยเฉพาะเรื่องถ่ายเซลฟี่

เพราะเมื่อวันคริสต์มาสเพิ่งมีหนุ่มตกหน้าผาตายขณะกำลังเช็คอุปกรณ์ที่ถืออยู่ในมือมาแล้ว

เรื่องของเรื่องก็คือคุณเคราะห์ร้าย (นามสมมุติ) อายุอานามประมาณ ๓๐ ปีตกหน้าผาซันเซ็ท คลิฟฟ์ ในซาน ดิเอโกเมื่อวันคริสต์มาสที่ผ่านในขณะที่กำลังดูอุปกรณ์ที่อยู่ในมือ

หน้าผาแห่งนี้เป็นจุดชมวิวที่นักถ่ายรูปโปรดปราน

คนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเขาเห็นคุณเคราะห์ร้ายสนใจแต่อุปกรณ์ในมือแล้วเดินตกหน้าผาไปเลย

บิล เบนเดอร์ จากหน่วยกู้ชีพซาน ดิเอโกบอกกับผู้สื่อข่าว “เขาไม่ได้มองว่ากำลังเดินไปไหน เอาแต่มองอุปกรณ์ในมือ”

เจ้าหน้าที่ไม่พบอุปกรณ์ที่เขาถือ คนที่อยู่แถวนั้นก็ไม่แน่ใจว่ามันคือโทรศัพท์หรือกล้องกันแน่

หลังจากทีเขาตกลงไป ชายจิตอาสาสามคนปีนลงไปเพื่อที่จะช่วยเขา พวกเขาถึงกับช่วยปั้มหัวใจคนเจ็บ  จิตอาสาคนหนึ่งชื่อธอร์ วิลิงค์ อายุ 13 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขาได้ยินเสียงคนกรีดร้อง “ช่วยด้วย พระเจ้า ช่วยผมด้วย”

แต่กลุ่มจิตอาสากลุ่มไม่สามารถยื้อชีวิตของชายผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ได้ เขาเสียชีวิตในทีเกิดเหตุ เบนเดอร์เตือนนักท่องเที่ยวคนอื่นที่เดินเข้าไปใกล้หน้าผาให้ดูสิ่งที่อยู่รอบตัวด้วย “คุณไม่ควรขับรถไปใช้โทรศัพท์ไปฉันใด คุณก็ไม่ควรเดินไปใช้โทรศัพท์ไปหรือทำอะไรให้เสียสมาธิฉันนั้น”

(ผมเคยเอาเรื่องของคนที่เสียชีวิตเพราะถ่ายเซลฟี – ซึ่งมีมากกว่าคนที่เสียชีวิตเพราะถูกฉลามกัด - มาให้อ่านแล้วเมื่อไม่นานมานี้ เพราะฉะนั้น ขอให้เที่ยวอย่างมีสตินะครับ – ผมเอง)

-v-v[86Iภาพจาก: Pexels.com


อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก:พาหนะที่เร็วกว่ารถสูตรหนึ่ง???

นี่คือทิปเล็กน้อยสำหรับคนที่อยากเป็นโจร

Photo credit: Pixabay.com


การจะไปขโมยของหรือไปปล้นใคร ถ้าจะให้สำเร็จก็ต้องมีพาหนะดีๆเอาไว้หลบหนี จะเป็นรถ เป็นเรือ หรือมอเตอร์ไซค์อะไรก็ได้แล้วแต่จะเลือก แต่ที่แน่ๆไม่ควรเลือก...ลา
เพราะในโคลัมเบีย หัวขโมยสามคนไม่คิดยังงั้น ก่อนลงมือสิบสองชั่วโมง พวกเขาไปขโมยซาวี - ลาแก่อายุ 10 ปีเอามารอไว้
ความจริง เวลาสิบสองชั่วโมงน่าจะเหลือเฟือ จะไปขโมยรถ ขโมยเรืออะไรก็ได้ แต่พวกเขามุ่งมั่นจะใช้ลาให้ได้
การปล้นเป็นไปอย่างสะดวกโยธิน หัวขโมยทั้งสามเข้าไปปล้นร้านสะดวกซื้อ ได้อาหารกับเหล้ามามากมาย พวกเขาเอามาวางไว้บนหลังลาแล้วเตรียมตัวหนี แต่ซาวีตัดสินใจไม่เล่นด้วย
นอกจากนั้น ซาวีก็เริ่มร้องดังขึ้นๆ ตำรวจที่อยู่ใกล้ๆจึงหันมามอง
หัวขโมยเห็นท่าไม่ได้การ จึงตัดสินใจวิ่งหนี ทิ้งซาวีเอาไว้ ...พร้อมกับของที่ปล้นมาที่อยู่บนหลังของมัน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคำว่า “ลาโง่” ก็ใช่ไม่ได้เสมอไป
(ก็บอกแล้วไงว่าใกล้ปีใหม่แล้ว อ่านเรื่องเบาๆก็พอ – ผมเอง)
ขอขอบคุณภาพจาก: pixabay

อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน


วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก:ซานตา คลอสใส่ชุดวาบหวิววิ่งผ่าใจกลางเมืองยอร์ควิลล์ คานาดา

ซานตาใส่ชุดวาบหวิววิ่งผ่าใจกลางเมืองยอร์ควิลล์เพื่อการกุศล

ภาพจากแฟ้ม / ไฟคริสต์มาส


สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ วันนี้วันดีอ่านเรื่องเบาๆก็แล้วกันน้อ

เมื่อวันเสาร์ต้นเดือน มีมหกรรมวิ่ง โตรอนโต ซานตา สปีดโด้ รัน เพื่อหาเงินให้กับกองทุนเพื่อจัดหาของขวัญและเกมสำหรับเด็กป่วย

เมื่อต้นเดือนนี้ นักวิ่งในโตรอนโตประมาณ 100 คน ใส่ชุดว่ายน้ำรัดรูปสีแดง (ผู้ชายนุ่งกางเกงว่ายน้ำสีแดงตัวเดียว ผู้หญิงใส่ชุดบีกีนีสีแดง ทุกคนสวมหมวกแดงซานตา) ทำตัวเป็นซานตา ครอส ในงานวันโตรอนโต ซานตา สปีดโด้ รัน ครั้งที่ 10 งานนี้ถูกจัดขึ้นทุกปีเพื่อหาเงินให้กับกองทุนเพื่อของเล่นและเกมสำหรับเด็กป่วย

เมื่อเสียงระฆังดัง นักวิ่งทั้งหมดจะออกวิ่งไปตามถนนยอร์ควิลล์ ท่ามกลางรอยยิ้มและสายตาของคนที่เดินอยู่ริมถนน พวกเขาจะหันมามองซ้ำแล้วซ้ำอีก

“สนุกดี เป็นการทำให้คนคิดถึงเด็กป่วย” คนที่ยืนมองคนหนึ่งกล่าว
“เห็นซานตา แต่งตัวเกือบเปลือยแบบนี้แล้วน่ารัก” อีกคนหนึ่งเสริม

ปีนี้โตรอนโต ซานตา สปีดโด้ รันหาเงินเข้ากองทุนได้ประมาณสามหมื่นกว่าดอลลาร์ แมทท์ ฟรีแมน ผู้ริเริ่มโครงการนี้กล่าว เงินจำนวนนี้ทำให้กองทุนหาเงินได้แล้วประมาณสามแสนกว่าในสิบปีที่ผ่านมา

นักวิ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมหลายคนเป็นนักไตรกรีฑา 

บางคนเอาสีเขียนบนพุ่งเปลือยๆว่า “โฮ โฮ โฮ” และอื่นๆ

การวิ่งจะวิ่งติดต่อกันหลายรอบแล้วไปจบที่หน้าห้างลูลูเลมอนในเมืองยอร์ควิลล์

ถึงแม้จะเอาข่าวนี้มาให้อ่านช้าไปหน่อย แต่ถ้าจะบริจาคก็ยังน่าจะทัน ใครสนใจติดต่อไปที่ “โตรอนโต ซานตา สปีดโด้ รัน”  เอาเองนะ

ภาพจากแฟ้ม: ไฟประดับวันคริสต์มาสและปีใหม่หน้าห้างแถวบางพลี


อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: อนาถ...ช่างถูกดูดเข้าไปในเครื่องของเครื่องบิน

ช่างเครื่องชะตาขาด ถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบินไอพ่น

ภาพจากแฟ้ม / ข้างหลังเครื่องบิน


ข่าวรายงานว่าโศกนาฎกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินไอพ่นกำลังถอยออกไปจากประตูขึ้นเครื่องของผู้โดยสารแล้วนักบินก็ติดเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่างคนหนึ่งของสายการบินแอร์ อินเดียเสียชีวิตหลังจากถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ไอพ่นหลังจากเกิด “อุบัติเหตุ”

อุบัติเหตุที่แปลกพิศดารครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินกำลังถอยหลัง (push back) เพื่อจะบิน (take off)ที่ท่าอากาศยานมุมไบ

มันเกิดขึ้นเมื่อผู้ช่วยนักบินของเที่ยวบิน A1 619 ที่จะเดินทางไปยังเมื่องไฮเดอร์ราบัด เข้าใจสัญญาณจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินผิดแล้วติดเครื่อง แรงดูดของใบพัดดูดราวี ทรัพรามัน ช่างเครื่องบิน ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ เข้าไปในเครื่อง ทำให้เขาเสียชีวิตทันที

เจ้าหน้าที่ของสายการบินกล่าวในทวิตเตอร์ว่า ราวี “เสียชีวิตในขณะที่เครื่องบินเที่ยวบินที่ A1 619 กำลังถอยหลัง” นอกจากนั้นยังส่งสารแสดง “ความเสียใจอย่างสุดซึ้ง” ไปให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย ส่วน อัศวิน โลห์อาณี หัวหน้าของราวีกล่าวว่าเขา “เศร้าใจอย่างหาที่เปรียบมิได้”

แหล่งข่าวคนหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ตอนนั้น เราไม่รู้จริงๆว่าเขาไปอยู่ใกล้เครื่องบินได้ยังไง”

“การไต่สวนเท่านั้นจึงจะบอกได้ว่ามันเป็นความประมาทเลินเล่อของใคร และนักบินควรจะติดเครื่องในตอนนั้นหรือไม่”

ประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นครั้งหนึ่ง

อุบัติเหตุครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินเทอร์โบพร็อบ (เครื่องบินไอพ่น แต่มีใบพัด) ของสายการบินราคาถูกสายหนึ่งลื่นไถลตกรันเวย์เมื่อชนกับหมูป่าขณะกำลังลงจอดที่สนามบินจาบาลเปอร์ มัธยประเทศ ทางภาคกลางของอินเดีย

ไหนๆก็เอาเรื่องเครื่องบินมาให้อ่านแล้ว เอาอีกเรื่องก็แล้วกัน

เครื่องบินเล็กเหมาลำตกใกล้กับสนามบิน มีผู้เสียชีวิต10 ราย

ตำรวจเปิดเผยว่า เครื่องบินเล็ก บรรทุกตำรวจชายแดน ตกใกล้กับสนามบินในกรุงนิวเดลีขณะกำลังทะยานขึ้นฟ้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน

ตำรวจเปิดเผยต่อไปว่า เครื่องบินเล็กลำนี้พุ่งชนกำแพงในเมือง ทวารกา ใกล้ๆกับกรุง นิว เดลี แล้วเกิดระเบิด ไฟลุกท่วม

เครื่องบินลำนี้ถูกตำรวจชายแดน (Border Security Force)เช่าเหมาลำ

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 9.50 น.(เวลาในท้องถิ่น)ของวันอังคารที่ผ่านมาหลังจากนักบินขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินเพียงไม่กี่นาที – เอเค ชาร์มา หัวหน้างานบริการดับเพลิงกรุงนิว เดลีกล่าว

รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลการบินพลเรือนของอินเดีย กล่าวว่า “ผู้โดยสาร 10 คนที่อยู่บนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด”

สุราจ – ซึ่งเห็นเหตุการณ์ – บอกกับนักข่าวว่าเครืองบินบินชนกำแพงแล้วไฟลุกท่วม และตกลงมากลางทุ่งนานอกสนามบิน

“ผมเห็นคนประมาณ 10 คนอยู่ในเครื่อง ผมเห็นศพสองศพ ตอนนั้นมีคนงานหลายคนอยู่ในนาตรงที่เครื่องบินตก”

รถดับเพลิงมากกว่าสิบคันและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนมากรีบเข้าไปดับเพลิง

เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดในอินเดียเกิดขึ้นในเมืองมังกาลอร์ในเดือนพฤษภาคม 2010 ทำให้มีคนเสียชีวิต 160 คน

ทิป: เหตุการณ์แรก ถ้าเป็นบ้านเรา นักบินต้องรอให้หอควบคุมการบินอนุญาติก่อนๆที่จะติดเครื่องนะ

ภาพจากแฟ้ม: เครื่องบิน


อ่านข่าวแปลกได้ที่นี่ทุกวัน

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ข่าวแปลก: แค้นนี้ต้องชำระ หนุ่มอินเดียฆ่าคนที่ฆ่าพ่อ

สิบปีล้างแค้นยังไม่สาย


มีด / ภาพจากแฟ้ม
เมื่อเห็นพ่อถูกเพื่อนฆ่าตาย ลูกชายจึงเก็บความแค้นเอาไว้

บุตรชายของชาวอินเดียที่ตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมสารภาพว่าเขาแทงคนที่ฆ่าพ่อแล้วหั่นศพเป็น 12 ท่อน หนึ่งท่อนคือหนึ่งปีแห่งการรอคอย

เมื่อ อาลัม ข่าน เห็นพ่อถูกเพื่อนของครอบครัวฆ่าตายอย่างทารุณในปี 2003 ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุ 12 ขวบ

เขาวางแผนล้างแค้นมาตั้งแต่บัดนั้น แล้วโอกาสก็มาถึง เขาได้ล้างแค้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วโดยชวนฆาตกรมากินเหล้าที่บ้านในรัฐอุตรประเทศ

ข่านบอกกับผู้สื่อข่าวหลังจากถูกจับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เขามอมเหล้าโมฮัมมัด ราอีสจนเมาได้ที่ แล้วใช้มีดแทงโมฮัมมัดจนตาย จากนั้นจึงใช้เลื่อยและค้อนหั่นร่างของเขา

จากนั้น เขากับเพื่อนอีกคนก็เอาชิ้นส่วนต่างๆใส่ถุงพลาสติกไปโยนทิ้งน้ำ

ถุงถูกน้ำพัดไปติดอยู่ริมคลอง จึงมีคนมาพบและแจ้งตำรวจ ตำรวจเอาชิ้นส่วนศพไปพิสูจน์อัตลักษณ์ ถ้าราอีสไม่มีแผลเป็นจากการผ่าตัดที่ทรวงอก ตำรวจก็คงไม่รู้ว่าศพเป็นใคร

ข่านถูกจับหลังจากพยานให้การว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นราอีสคือตอนที่ราอีสเข้าไปในบ้านของข่าน ตำรวจเจออาวุธประกอบด้วยเลื่อยและค้อนในบ้านของข่านในโมราดาบัด

ข่านรับสารภาพอย่างหน้าชื่นตาบานว่า “ผมเปิดเพลงจนดังที่สุด แล้วหั่นศพเขาเป็น 12 ท่อน”

ข่านไม่เคยบอกใครว่าฆาตกรรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร เขาเลือกที่จะรอ 12 ปีเพื่อ “ทำความฝันให้เป็นจริง” ด้วยการฆ่าคนที่ฆ่าพ่อของเขาและตอนนี้เขา “มีความสุขแล้วที่แก้แค้นได้สำเร็จ”แล้ว

ตำรวจเจ้าของคดีบอกกับผู้สื่อข่าวว่าข่านรับสารภาพว่ากระทำความผิดโดย “ไม่สะทกสะท้าน” แต่อย่างใด

ภาพจากแฟ้ม: มีด


อ่านข่าวแปลกได้ทุกวันที่นี่